ความเป็นมา

ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว  (Postharvest Technology Innovation Center) เกิดจากแนวคิดในการใช้กลไก “ศูนย์ความเป็นเลิศ” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีสากล  โดยพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวที่ตอบโจทย์ปัญหาและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง  ร่วมกับการผลิตบุคลากรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีทักษะการวิจัยที่เข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยซึ่งมีความเหมาะสมกับปัจจัยสภาวะแวดล้อมด้านต่างๆของประเทศ  ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ  เพิ่มศักยภาพให้ภาคเกษตรกรรมของไทยมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น  สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและแผนการพัฒนาประเทศ

การดำเนินงานระยะที่ 1 (พ.ศ. 2543 – 2548)

ได้รับคัดเลือกจากทบวงมหาวิทยาลัย ให้เป็นหนึ่งในเจ็ดศูนย์ความเป็นเลิศที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เริ่มดำเนินการในชื่อ  “โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว” โดยมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยนำ  และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นมหาวิทยาลัยร่วม โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และเงินงบประมาณอุดหนุนทั่วไป       ในระยะนี้ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ห้องปฏิบัติการวิจัย เครื่องมืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์ และพัฒนาความเชี่ยวชาญพิเศษของบุคลากร  ได้บูรณาการงานบัณฑิตศึกษา  งานวิจัย  งานบริการวิชาการ  สนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคการผลิต  รวมทั้งได้เริ่มพัฒนา website เพื่อให้บริการฐานข้อมูลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว  รวมทั้งมีการประเมินผลการดำเนินงานโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่จากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย เป็นระยะ

การดำเนินงานระยะที่ 2 (พ.ศ. 2549 – 2552)

ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ให้ดำเนินงานต่อระยะที่ 2 โดยรัฐบาลได้สนับสนุนเงินงบประมาณอุดหนุนทั่วไป  และได้เปลี่ยนชื่อเป็น  “ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว”  มีการขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 5 สถาบัน  ได้แก่  มหาวิทยาลัยแม่โจ้  มหาวิทยาลัยนเรศวร  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ในระยะนี้ได้ปรับพันธกิจต่างๆให้ชัดเจนขึ้น  เน้นบทบาทเชิงยุทธศาสตร์และความเชื่อมโยงเชิงวิชาการกับภาคการผลิต  มุ่งเน้นงานวิจัยที่เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  รวมทั้งพัฒนากำลังคนระดับสูงด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวให้กับหน่วยงานราชการ  ธุรกิจเอกชน และสถาบันอุดมศึกษา/วิจัย   การให้บริการฐานข้อมูลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวผ่าน website ของศูนย์ฯ ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ  นอกจากนี้  ได้มีการประเมินผลการดำเนินงานทั้งเชิงวิชาการและเชิงบริหารโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก

การดำเนินงานระยะเปลี่ยนผ่าน (พ.ศ. 2553 – 2558)

เป็นช่วงที่มีการประเมินผลการดำเนินงานอย่างเข้มข้น โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้มอบหมายให้สถาบันคลังสมองแห่งชาติทำการประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ฯในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมีการจัดทำข้อมูลและรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมเพื่อประกอบข้อเสนอการดำเนินงานศูนย์ความเป็นเลิศระยะที่ 3 ต่อคณะรัฐมนตรี  ทำให้ในระยะนี้ได้รับงบประมาณลดลง

การดำเนินงานระยะที่ 3 (พ.ศ. 2559 – 2563)

ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เป็นระยะที่ 3  โดยดำเนินการร่วมกันระหว่าง 4 สถาบัน มีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยนำ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นมหาวิทยาลัยร่วม โดยบุคลากรจากมหาวิทยาลัย/หน่วยงานอื่นสามารถเข้าร่วมได้ในฐานะบุคคล  ปรับรูปแบบการดำเนินงานแบบ research driven มีการพัฒนาโปรแกรมวิจัยที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์  ลดการนำเข้าเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตผลเพื่อการส่งออก สร้างความปลอดภัยทางอาหาร  เพิ่มขีดความสามารถในการผลิต เป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดเทคโนโลยี  และเป็นแหล่งพึ่งพิงและอ้างอิงทางวิชาการ