นำร่องบ้านนาบ่อคำ เมืองกล้วยไข่ ผลิตข้าวปลอดภัย ส่งขายทั่วโลก
กระแสการบริโภค "ข้าวอินทรีย์" นับวันแนวโน้มกลุ่มผู้บริโภคทั้งในต่างประเทศและคน "เปิบ" บ้านเรามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อขานรับความต้องการ เกษตรกรชาวนาในหลายพื้นที่ได้รวมกลุ่มเพาะปลูกข้าวปลอดภัย ตามหลักขั้นตอนการผลิตทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม GAP (Good Agriculture Practices) และกลุ่มข้าวปลอดสารที่นำโดยนายทองดี งามเสริฐ เกษตรกรบ้านเลขที่ 243 หมู่ 4 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นหนึ่งในจำนวนนี้
นายทองดี เล่าให้ฟังว่า สมาชิกของกลุ่มมีจำนวน 53 ราย พื้นที่ทั้งหมด 1,500 ไร่ การปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง ดังนั้น ปัญหาเรื่องโรคแมลงจึงค่อนข้างเอาอยู่ โดยจะร่วมกันเตรียมแปลงผลิตเมล็ดภัณฑ์ และการใช้สารชีวภัณฑ์พร้อมกับร่วมดูแลขณะที่รอเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งการดำเนินการพวกเราจะใช้เงินทุนกองกลางทั้งหมด หลังขายผลิตผลแล้วจึงแบ่งสรรรายได้
ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะช่วยกันดูแลให้ผลผลิตได้คุณภาพปลอดสารตกค้าง ตามกระบวนการขั้นตอนของ GAP พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อข้าวในหมู่บ้านจะตีราคาให้ไม่ต่างจากข้าวที่ปลูกทั่วไปมากนัก กระทั่งรู้ว่าทาง บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ ผลิตและจำหน่ายสินค้า "ข้าวตราฉัตร" ร่วมกับจังหวัดทำแปลง "ผลิตข้าวปลอดภัย" ที่มุ่งเน้น ผู้ ผลิตข้าวและผู้บริโภคจะต้องปลอดภัยทั้งคู่ เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
หลังจากสมาชิกศึกษาหลักเกณฑ์ จึงตกลงใจว่าจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อตัดปัญหาพ่อค้าคนกลาง อีกทั้งทางบริษัทมีข้อเสนอว่าถ้าสามารถผลิตข้าวปลอดภัยส่งให้กับทางบริษัทได้มาตรฐานตามที่กำหนด ราคาที่โรงสีของโครงการรับซื้อจะอยู่ที่ 13,000-15,000 บาท/เกวียน
"การผลิตข้าวของทางกลุ่ม ในด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะการใช้สารเคมีนั้น ได้นำเอาความรู้จากการสัมมนา ดูงานในพื้นที่ต่างๆมาประยุกต์ใช้ และทางบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำการใช้สารต่างๆ ว่ามีสารตัวใดต้องห้าม ชนิดใดที่ควรงด แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ก็ควรอยู่ในช่วงที่ห่างระยะการเก็บเกี่ยว และมีความเหมาะสม ทุกวันนี้กลุ่มของเราสามารถขายผลผลิตได้ราคาที่ค่อนข้างดีขึ้น ต่างจากเดิมที่เคยได้ราคา สูงสุดไม่เกิน 11,000 บาท"
ด้านนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานผู้ บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด กลุ่มการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ข้าวตราฉัตรได้ประสบความสำเร็จในเรื่องของตราสินค้า ด้วยรางวัล "ข้าวที่ดีที่สุดในโลก" หรือ "Best Rice in the World" ประจำปี ค.ศ. 2009 เพื่อขอบคุณชาวนาไทยที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างผลผลิตข้าวที่ดีมีคุณภาพ
สำหรับส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทางบริษัทพร้อมด้วยจังหวัดกำแพงเพชร เกษตรจังหวัด ฯลฯ จัดโครงการการศึกษาและพัฒนาระบบการปลูกข้าวนำร่องในจังหวัดกำแพงเพชรขึ้น พร้อมทั้งจัดอบรมพัฒนาเทคโนโลยีในการปลูกข้าวให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เหล่านี้ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้สามารถผลิตข้าวคุณภาพดี มีความปลอดภัย ตั้งแต่การปลูกกระทั่งถึงการขาย เกษตรกรมีความมั่นคงด้านราคาซื้อขาย และท้ายสุดให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกข้าวคุณภาพสู่ครัวโลก.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 19 มกราคม 2554
http://www.thairath.co.th/content/edu/142317