นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมวิชาการเกษตรเตรียมจะออกประกาศระงับการส่งออกพืชผัก 5 กลุ่ม ที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากพบปัญหาศัตรูพืชตกค้างจำนวนมาก ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสภาพแปลงปลูกผักของเกษตรกรที่เข้าร่วมการโครงการ การเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) เชื่อมั่นว่า ต้นทางในแปลงปลูกผักของเกษตรกรมีปัญหาน้อย เนื่องจากมีการสุ่มเก็บตรวจอย่าง เพื่อตรวจสอบสารตกค้างในห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตรก่อนการส่งผลผลิตไปยังโรงคัดบรรจุ อย่างไรก็ดีที่โรงคัดบรรจุนี้จะดำเนินการกำจัดแมลงศัตรูพืชที่ติดไปกับพืชผักที่จะส่งออก โดยในจุดนี้นับว่ามีความสำคัญยิ่งและจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างระเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่าสาเหตุของการติดไปของศัตรูพืชเกิดจากขั้นตอนของโรงคัดบรรจุ ก็จำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุง เพื่อให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์การส่งออกของสหภาพยุโรป

ขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯได้มอบหมายให้อัคราชทูตที่ปรึกษาสำนักงานเกษตรประจำสหภาพยุโรป รวมถึงได้ประสานไปยังผู้แทนการค้าไทยที่ประจำสหภาพยุโรป เพื่อเจรจากับทางสหภาพยุโรปขอให้มีการผ่อนผันสำหรับบริษัทหรือผู้ประกอบการส่งออกที่มีประวัติดีที่ไม่พบปัญหาสารตกค้าง หรือแมลงศัตรูพืชให้สามารถส่งออกไปยังสหภาพยุโรปได้

พร้อมนี้กระทรวงเกษตรฯ จะทำหนังสือถึงสหภาพยุโรปพร้อมกับแนบมาตรการต่างๆ ที่ประเทศไทยได้ดำเนินการไปให้กับทางสหภาพยุโรปได้รับทราบ ซึ่งทางสหภาพยุโรปจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 อย่างไรก็ตาม ไทยจะระงับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชผักทั้ง 5 กลุ่มที่จะส่งออกไปยังสหภาพยุโรปชั่วคราว และดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการส่งออก เพื่อเป็นการแสดงความตั้งใจ และความจริงใจในการเร่งแก้ไขปัญหาสุขอนามัยพืชที่ส่งออกไปสหภาพยุโรป พร้อมนี้ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเร่งให้ความรู้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการส่งออกเกี่ยวกับการรับรองและเกณฑ์มาตรฐานการส่งออกของสหภาพ ยุโรป รวมถึงเคร่งครัดการตรวจสารตกค้าง และแมลงศัตรูพืชที่ด่านกักพืชที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นครัวของโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 19 มกราคม 2554
http://www.naewna.com/news.asp?ID=245328