ปี 54 วางมาตรการเข้มกาแฟ เพิ่มศักยภาพ ระบบซื้อ-ขาย
นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพืชสวนเห็นชอบการพิจารณามาตรการนำเข้าเมล็ดกาแฟ เพื่อใช้ในประเทศภายใต้ AFTA ปี 2554 โดยให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)หรือผู้ประกอบการที่ประกอบ ธุรกิจแปรรูปกาแฟและเป็นนิติบุคคล ซึ่งทางคณะอนุกรรมการฯได้กำหนดคุณสมบัติและเกณฑ์ของผู้นำเข้าจะต้องมีประวัติการรับซื้อภายในประเทศย้อนหลัง 1-2 ปี มีใบอนุญาตผลิตอาหารพร้อมทั้งรายงานการนำเข้า การใช้ และสต๊อกคงเหลือภายใน 1 เดือน
นายเฉลิมพรเผยอีกว่า ส่วนช่วงเวลาที่อนุญาติให้มีการนำเข้ามานั้น อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งเงื่อนไขการกำกับดูแลที่คณะอนุกรรมการพืชสวนกำหนดนั้น วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเท่านั้น ห้ามจำหน่ายหรือแจก จ่ายเป็นวัตถุดิบในประเทศ โดยผู้มีสิทธินำเข้าจะต้องรับซื้อผลผลิตกาแฟในประเทศในส่วนของฤดูกาลถัดไปเป็นปริมาณ 2 เท่า จากปริมาณที่นำเข้าจริงตามราคาตลาดโลกหรือให้รับซื้อในราคาต้นทุนการผลิตบวก 20% หรืออย่างน้อย 55 บาทต่อกิโลกรัม หากราคาตลาดโลกอยู่ในภาวะตกต่ำ
"อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้กำหนดเขตการใช้ที่ดิน พืชเศรษฐกิจกาแฟ ตามแผนยุทธศาสตร์กาแฟ ปี 2552-2556 เพื่อให้มีความเหมาะสมทั้งทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม สำหรับการปลูกกาแฟ และเป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิต การตลาด การส่งออก และการบริโภคภายในประเทศ" นายเฉลิมพรกล่าว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 6 มกราคม 2554
http://www.thairath.co.th/content/edu/139207