ผลของการลดความชื้นและบรรจุด้วยระบบสูญญากาศต่อความมีชีวิตของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองระหว่างการเก็บรักษา
เพ็ญสวาท สุวรรณศร
วิทยานิพนธ์ (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต เกษตรศาสตร์ (สาขาวิชาพืชไร่) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2540. 91 หน้า.
2540
บทคัดย่อ
การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง สจ.4 ที่ผ่านการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์แล้วลดความชื้นด้วยถังอบระบบปิดให้มีความชื้นอยู่ที่ระดับ 12% 10% 9% และ 8% บรรจุในถุงพลาสติกและถุงพลาสติกเคลือบไนลอนปิดผนึกสูญญากาศ ถุงพลาสติกปิดผนึกด้วยความร้อน และถุงพลาสติกสานโดยเย็บปากถุงด้วยเครื่องเย็บ เก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องเป็นระยะเวลานาน 8 เดือน เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่มีความชื้นเริ่มต้นต่าง ๆ กัน ตั้งแต่ 8-12% ที่บรรจุในถุงพลาสติก และถุงพลาสติกเคลือบไนลอนซึ่งปิดผนึกสูญญากาศมีระดับความชื้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่บรรจุในถุงพาสติกปิดผนึกด้วยความร้อนความชื้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามระดับความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ แต่อยู่ในระดับความชื้นที่ต่ำกว่าในถุงพลาสติกสาน ซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่บรรจุในถุงพลาสติกสาน พบว่ามีระดับความชื้นสูงขึ้นตั้งแต่เดือนแรกของการเก็บรักษาและสูงกว่าเมล็ดพันธุ์ที่บรรจุในภาชนะอื่น ๆ ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา
การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองในถุงพลาสติก และถุงพลาสติกเคลือบไนลอนปิดผนึกด้วยสูญญากาศ พบว่าคุณภาพดีที่สุด โดยการเก็บในระดับความชื้น 8% และ 9% สามารถเก็บได้นาน 8 เดือน โดยมีความงอกและความแข็งแรงสูงกว่า 70% แต่การเก็บที่ความชื้นเริ่มต้น 12% พบว่าคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยมีความงอกลดลงเหลือเพียง 49.75% ภายใน 5 เดือน ส่วนการเก็บเมล็ดพันธุ์ในถุงพลาสติกปิดผนึกด้วยความร้อน โดยเก็บในระดับความชื้น 8%, 9% และ 10% พบว่าภายใน 6 เดือนยังคงมีความงอกและความแข็งแรงสูงกว่า 70% แต่เมื่อเก็บไว้ในระดับความชื้น 12% มีความงอกลดลงเหลือเพียง 67% ภายใน 2 เดือน สำหรับเมล็ดพันธุ์ในถุงพลาสติกสาน พบว่าความมีชีวิตของเมล็ดลดลงต่ำกว่าการบรรจุในภาชนะอื่น ๆ ไม่ว่าเก็บด้วยความชื้นเริ่มต้นที่เท่าไร โดยเฉพาะเมล็ดที่เก็บด้วยความชื้นเริ่มต้นสูงถึง 12% พบว่าเมล็ดไม่สามารถงอกได้เลยภายใน 4 เดือน