อิทธิพลของระยะการเก็บเกี่ยวที่มีต่อการพักตัวของเมล็ดผักกาดขาวปลี และผักกาดเขียวปลี
จรัญ ดิษฐไชยวงศ์
วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขาวิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2533. 76 หน้า.
2533
บทคัดย่อ
จากการปลูกผักกาดขาวปลี (Brassica campestris L. ssp. Pekinensis (Lour.) Olssonl 6 สายพันธุ์ ได้แก่ #23 77M(3)-27, #26 77M(3)-27, #61, ตราช้าง ตราปลาวาฬ และตราเครื่องบิน พร้อมกับปลูกผักกาดเขียวปลี (Brassica juncea l…) 6 สายพันธุ์ ได้แก่ 2113, 2118, # 64, ตราปลาวาฬ, ตราปลาทอง และตราเครื่องบิน ณ แปลงทดลอง ศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2531 เก็บเกี่ยวเมล็ดในระยะหลังดอกบาน 21-30, 31-40 และ 41-50 วัน ผักกาดขาวปลีตราช้าง และตราปลาวาฬ ไม่แทงช่อดอก จึงเก็บเกี่ยวเมล็ดไม่ได้ เมื่อนำเมล็ดที่เก็บเกี่ยวใหม่ ๆ (control) มาทดสอบความงอกทุก ๆ เดือน ในระยะเวลา 2 เดือน รวมทั้งทดสอบวิธีทำลายการพักตัวโดยวิธีการต่าง ๆ กัน คือใช้ KNO3 0.1, 0.2 และ 0.3 % ผ่านความเย็น (prechill) 5-10 Oซ นาน 1, 3 และ 5 วัน (ผักกาดขาวปลี) นาน 5, 7 และ 9 วัน (ผักกาดเขียวปลี) และใช้ GA3 200, 300, 400 และ 500 ppm พบว่าเมล็ดผักกาดขาวปลี #23 77M(3)-27 (ระยะการเก็บเกี่ยว 41-50 วัน), #26 77M(3)-27, ผักกาดเขียวปลี 2113, 2118, #64, ตราปลาวาฬและตราปลาทอง ในทุกระยะการเก็บเกี่ยวมีความงอกสูง จึงไม่ทำการศึกษาวิธีทำลายการพักตัวของเมล็ดเหล่านี้ แต่จากการสังเกต และทดสอบความงอก พบว่าทุกสายพันธุ์ที่ระยะการเก็บเกี่ยว 41-50 วัน มีเปอร์เซนต์ความงอกสูงกว่าเมล็ดที่เก็บเกี่ยวระยะ 21-30 และ 31-40 วัน ส่วนเมล็ดผักกาดขาวปลี #23 77M(3)-27 ที่ได้นำมาทำการศึกษาเฉพาะระยะการเก็บเกี่ยว 21-30 และ 31-40 วัน, #61, ตราเครื่องบิน และผักกาดเขียวปลี ตราเครื่องบิน ในทุกระยะการเก็บเกี่ยว หลังจากทำลายการพักตัวโดยวิธีต่าง ๆ กัน พบว่า การเก็บเมล็ดนาน 2 เดือนที่อุณหภูมิห้อง, KNO3 0.3%, ผ่านความเย็น นาน 3 วัน (ผักกาดขาวปลี) นาน 7 วัน (ผักกาดเขียวปลี) และ GA3 200 ppm ต่างก็กระตุ้นให้เมล็ดงอกมากขึ้น แต่ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ระหว่างวิธีการต่าง ๆ
เมื่อนำเมล็ดผักกาดขาวปลีและผักกาดเขียวปลีในแต่ละระยะการเก็บเกี่ยวที่มีการพักตัวมาวิเคราะห์ปริมาณสารยับยั้งการงอก abscisic acid (ABA) โดยวิธี High performance liquid chromatography (HPLC) ผลปรากฏว่าไม่พบสารดังกล่าว ที่ควรจะเป็นสาร ABA แต่ได้พบสารชนิดอื่น ซึ่งปรากฏออกมาในกราฟ แต่ไม่ได้ทำการวิเคราะห์สารที่ปรากฏนั้น