บทคัดย่องานวิจัย

การยับยั้งการเจริญของราก่อโรคต่อผลลำไยโดยจุลินทรีย์ที่ผลิตไคติเนสและทนอุณหภูมิสูง

ศิริลาภา สมานมิตร

วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาชีววิทยา) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 58 หน้า.

2544

บทคัดย่อ

การยับยั้งการเจริญของราก่อโรคต่อผลลำไยโดยจุลินทรีย์ที่ผลิตไคติเนสและทนอุณหภูมิสูง เชื้อรา 3 ชนิดคือ Fusarium sp. Cladosporium sp. และ Lasiodiplodia sp. เป็นเชื้อราหลัก ๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหากับผลผลิตลำไยทางภาคเหนือของไทย จากจุลินทรีย์จำนวน 242 ไอโซเลท ที่ผลิตไคติเนสซึ่งแยกจากตัวอย่างดิน ตัวอย่างอาหารและจากหน่วยเก็บเชื้อจุลินทรีย์ Microbiology section, Chiang Mai University พบว่ามี 40 ไอโซเลทเป็นเชื้อราและแบคทีเรียทนอุณหภูมิสูง เมื่อนำมาทดสอบการเป็นเชื้อปฏิปักษ์โดยวิธี dual culture method กับเชื้อราทั้ง 3 ชนิด พบว่าเชื้อรา 11 ไอโซเลทและแบคทีเรีย 5 ไอโซเลทเป็นเชื้อปฏิปักษ์กับ Cladosporium sp. เชื้อรา 4 ไอโซเลท และแบคทีเรีย 2 ไอโซเลทเป็นเชื้อปฏิปักษ์กับ Fusarium sp. เลือกเชื้อราไอโซเลท CT12 และแบคทีเรียไอโซเลท H11 ซึงแสดงการเป็นเชื้อปฏิปักษ์ต่อราก่อโรคทั้ง 3 ชนิด จากนั้นนำมาทดสอบด้วยวิธี cylinder plate method โดยเลี้ยงใน enzyme production medium ซึ่งมี colloidal chitin เป็นแหล่งคาร์บอน นำไปเขย่าที่อุณหภูมิห้อง (28±2 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 7 วัน และนำไปทดสอบการยับยั้งกับราก่อโรค พบว่าน้ำกรองเลี้ยงเชื้อของราไอโซเลท CT12 สามารถยับยั้ง Fusarium sp. โดยให้วงใสขนาด 12.0 มิลลิเมตร แบคทีเรียไอโซเลท H11 สามารถยับยั้ง Cladosporium sp. และ Fusarium sp. โดยวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของวงใสที่เกิดขึ้น ได้ 19.3 และ 15.7 มิลลิเมตร ตามลำดับ เมื่อนำลำไยไปจุ่มน้ำกรองเลี้ยงเชื้อแล้วนำจำนวนจุลินทรีย์โดยวิธี spread plate พบว่าน้ำกรองเลี้ยงเชื้อสามารถลดจำนวนของจุลินทรีย์ลงได้เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุมคือน้ำกลั่น โดย Chitinase activity ของไอโซเลท CT 12 เท่ากับ 138, 133 และ 135 mU/ml ค่า specific activity เท่ากับ 345, 443 และ 401 mU/mg protein และ chitinase activity ของ ไอโซเลท H11 เท่ากับ 50, 51 และ 48 mu/ml ค่า specific เท่ากับ 187, 235 และ 167 mU/mg protein จากการทดลองกับลำไยในแต่ละครั้ง ทำการตกตะกอนโปรตีนด้วยแอมโมเนียมซัลเฟต แล้วนำทั้งส่วนของ supernatant และตะกอนไปทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งราก่อโรค พบว่า น้ำกรองเชื้อราไอโซเลท CT12 ที่ความเข้มข้นของแอมโมเนียซัลเฟต 70 เปอร์เซ็นต์ และน้ำกรองของแบคทีเรียไอโซเลท H11 ทีความเข้มข้นของแอมโมเนียมซัลเฟต 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อให้ความร้อนที่ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลาต่าง ๆ กันจะไม่ให้ผลการยับยั้งต่อราก่อโรคเลย จากการตรวจสอบลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเชื้อราไอโซเลท CT12 พบว่าเป็น Aspergillus fumigatus และแบคที่เรียไอโซเลท H11 เป็น Bacillus cereus