บทคัดย่องานวิจัย

ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการแตกและสุกของผลทุเรียน

จริงแท้ ศิริพานิช สิริพันธ์ ศรียุกต์ และ สมบูรณ์ ศิริอธิวัฒน์

รายงานผลการวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ, 2531. 40 หน้า.

2531

บทคัดย่อ

ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการแตกและสุกของผลทุเรียน  ผลทุเรียนเมื่อสุกจะแตกออกทำให้เป็นปัญหาสำคัญในการจำหน่าย ในการทดลองเก็บรักษาทุเรียนพันธุ์ชะนีไว้ในสภาพที่มีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 60% อุณหภูมิเฉลี่ย 30°ซ. เป็นเวลา 5 วัน พบว่ามีปริมาณน้ำหนักที่สูญเสีย 23% สูงกว่าการสูญเสียน้ำหนักของทุเรียนซึ่งเก็บรักษาที่สภาพความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 100% 2.4 เท่า ค่าคะแนนการแตกสูงกว่าถึง 5 เท่า โดยที่ปริมาณ soluble solids ความแน่นเนื้อ ความหนาเปลือก สีเนื้อและสีเมล็ดไม่แตกต่างกัน เมื่อทำการทดลองเก็บรักษาทุเรียนไว้ในสภาพที่มีก๊าซเอทธิลีนเข้มข้น 100 ppm หรือสภาพบรรยากาศปกติเป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำทุเรียนทั้ง 2 สภาพการทดลองไปไว้ที่อุณหภูมิ 25°ซ. พบว่า ทุเรียนที่ผ่านสภาพที่มีก๊าซเอทธิลีนจะมีค่าคะแนนการแตกสูงกว่าสภาพบรรยากาศปกติ ส่วนปริมาณน้ำหนักที่สูญเสียไม่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งการสูญเสียน้ำหนักและเอทธิลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชชนิดหนึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมการแตกของผลทุเรียน

การทดลองควบคุมการแตกของผลทุเรียนพันธุ์ชะนี โดยใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช 8 ชนิด ได้แก่ IBA (1,000 และ 5,000 ppm), 2,4-D (100 และ 1,000 ppm), 2,4,5-T (100 และ 1,000 ppm), GA3 (10 และ 100 ppm), BAP (10 และ 100 ppm), daminozide (500 และ 5,000 ppm), mepiquat chloride (25 และ 100 ppm) และ ethephon 1,000 ppm พบว่า GA3 100 ppm เท่านั้นที่ทำให้ทุเรียนแตกช้ากว่าการไม่ใช้สารเป็นเวลา 1-2 วัน และสามารถรักษาความเขียวสดของทุเรียนไว้ได้ตลอดการเก็บรักษา 6 วัน ในขณะที่ ethephon 1,000 ppm มีแนวโน้มทำให้ทุเรียนแตกเร็วขึ้น 0.8 วัน ส่วนผลของสารเหล่านี้ต่อกระบวนการสุกอื่นๆ ของทุเรียนไม่เด่นชัด

การใช้สารเคลือบผิวสี่ชนิดได้แก่ Semperfresh, Apple wax, Storage wax และ FMC360 ความเข้มข้นต่างๆ ตามคำแนะนำของผู้ผลิตกับผลทุเรียนพันธุ์ชะนี ทำให้การสูญเสียน้ำออกจากผลทุเรียนลดลง ปริมาณความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่เอทธิลีนลดลงมากกว่าในทุเรียนปกติ เป็นผลทำให้ทั้งการสุกและแตกของผลทุเรียนช้าลง สารเคลือบผิวที่ใช้ได้ผลดีได้แก่ Semperfresh ความเข้มข้น 1% ช่วยชะลอการสุกและแตกของผลทุเรียนออกไปได้เท่าตัว