การใช้เอทธิลีนไดโบรไมด์รมเพื่อกำจัดแมลงวันผลไม้ (Dacus dorsalis Hendel) ในผลมะม่วงหลังจากเก็บเกี่ยว
ชลิดา สังข์ทอง
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (เกษตรศาสตร์)) สาขาสาขาวิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2525, 64 หน้า.
2525
บทคัดย่อ
ผลการทดลองปรากฏว่า เอทธิลีนไดโบรไมด์ที่อัตราความเข้มข้น 4 กรัมต่อลูกบาศก์เมตรให้ผลดีเฉพาะในการกำจัดไข่และหนอนวัย 1 ของแมลงวันผลไม้ในมะม่วงทั้งสองพันธุ์ แต่ให้ผลไม่ดีเท่าที่ควรในการกำจัดหนอนวัย 2 และ 3 ของแมลงวันผลไม้ ส่วนที่อัตราความเข้มข้น 8 และ 12 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไข่และหนอนทุกวัยของแมลงวันผลไม้ในมะม่วงทั้งสองพันธุ์
จากการวิเคราะห์มะม่วงทั้งสองพันธุ์เพื่อหาปริมาณตกค้างของเอทธิลีนไดโบรไมด์ด้วยเครื่องแก๊สโครมาโตกราฟ หลังจากการรมยา 1, 3 และ 7 วัน ผลปรากฏว่า หลังจากรมยา 1 วัน ที่อัตราทุกความเข้มข้นปริมาณตกค้างของเอทธิลีนไดโบรไมด์ในมะม่วงทั้งสองพันธุ์อยู่ในระดับสูงกว่าค่าปลอดภัย (ค่าปลอดภัยของเอทธิลีนไดโบรไมด์ในมะม่วงประมาณ 0.03 ppm) แต่ปริมาณเอทธิลีนไดโบรไมด์ที่ตกค้างจะลดลงอย่างรวดเร็วตามระยะเวลาหลังจากการรมยา ภายในระยะเวลา 3 วันหลังจากการรมยา ปริมาณตกค้างของเอทธิลีนไดโบรไมด์ทุกอัตราความเข้มข้นจะลดลงต่ำกว่าค่าปลอดภัย ยกเว้นที่อัตราความเข้มข้น 12 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณตกค้างของเอทธิลีนไดโบรไมด์ในมะม่วงหนังกลางวันจะเหลืออยู่ 0.065 ppm ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าปลอดภัย
การศึกษาผลกระทบของเอทธิลีนไดโบรไมด์ต่อมะม่วงหลังจากการรมยา แสดงให้เห็นว่า เอทธิลีนไดโบรไมด์ไม่มีผลต่อรสของมะม่วงทั้งสองพันธุ์ แต่มีแนวโน้มทำให้ปริมาณน้ำตาลในผลมะม่วงสูงขึ้นกว่าผลมะม่วงที่ไม่ได้รับการรมยาเล็กน้อย