ผลของเมทิลจัสโมเนทต่อการเปลี่ยนแปลงสีและคุณภาพของผลมะม่วงพันธุ์มหาชนก
อินทนนท์ ชันวิจิตร
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว) สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 165 หน้า. 2553.
2553
บทคัดย่อ
สีแดงบนเปลือกเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงพันธุ์มหาชนกซึ่งมีผลต่อคุณภาพของผล ในการผลิตมะม่วงพันธุ์นี้มักประสบปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาสีแดงของเปลือกผลที่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นในการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของสารเมทิลจัสโมเนทต่อการพัฒนาสีแดงของเปลือกผล และคุณภาพของผลโดยแบ่งเป็น 2การทดลองคือ การทดลองที่ 1ศึกษาผลของการใช้สารเมทิลจัสโมเนท ต่อการเปลี่ยนแปลงสีผิว และคุณภาพของผลมะม่วงพันธุ์มหาชนกระหว่างการเจริญของผล โดยให้เมทิลจัสโมเนทที่ความเข้มข้น 5, 10และ 15มิลลิโมล กับผลมะม่วง 2กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอายุ 84และ 98วันหลังดอกบาน เปรียบเทียบกับผลที่ไม่ได้รับสาร (ชุดควบคุม) แล้วเก็บผลมะม่วงมาตรวจวัดผลทุก 7วัน จนผลมีอายุ 119วันหลังดอกบาน พบว่า ผลมะม่วงที่มีอายุ 84และ 98วันหลังดอกบาน ที่ได้รับสารเมทิลจัสโมเนท มีการพัฒนาสีแดงของเปลือกผล แอกทิวิตีของเอนไซม์ PAL และปริมาณแอนโทไซยานินทั้งหมดในเปลือกผลเพิ่มขึ้นสูงกว่าชุดควบคุม การให้เมทิลจัสโมเนทที่ความเข้มข้น 15มิลลิโมล ให้ผลในการกระตุ้นการสร้างสีแดงดีกว่าชุดการทดลองอื่นๆ นอกจากนี้การให้สารเมทิลจัสโมเนทไม่มีผลต่อปริมาณของแข็งทั้งหมดที่ละลายในน้ำได้ และปริมาณกรดที่ไทเทรตได้เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุม
การทดลองที่ 2ศึกษาผลของการใช้สารเมทิลจัสโมเนทร่วมกับการใช้แสงฟลูออเรสเซนต์ต่อการเปลี่ยนแปลงสีและคุณภาพของผลมะม่วงพันธุ์มหาชนกหลังการเก็บเกี่ยว โดยนำผลที่เก็บเกี่ยวเมื่อมีอายุ 112วันหลังดอกบาน มาให้สารเมทิลจัสโมเนทที่ความเข้มข้น 5, 10, และ 15มิลลิโมล เปรียบเทียบกับผลที่ไม่ได้รับสารแล้วนำผลมะม่วงทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 15องศาเซลเซียส ร่วมกับการให้แสงฟลูออเรสเซนต์เป็นเวลา 12ชั่วโมงต่อวัน นำตัวอย่างมาตรวจวัดผลหลังเก็บรักษาเป็นเวลา 7, 14, และ 21วัน พบว่าผลมะม่วงที่ได้รับสารเมทิลจัสโมเนท ร่วมกับการให้แสงฟลูออเรสเซนต์ภายหลังการเก็บเกี่ยวมีการพัฒนาสีแดงของเปลือกผลมากกว่าชุดควบคุม โดยไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพในระหว่างการเก็บรักษา ผลมะม่วงในทุกชุดการทดลองสุกได้ภายใน 7วันหลังเก็บรักษา