บทคัดย่องานวิจัย

การใช้อุณหภูมิสลับและอุณหภูมิสูงก่อนการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำต่ออาการสะท้านหนาวและคุณภาพของผลมะละกอพันธุ์แขกดำ

ลดาศิริ หัวใจแก้ว

วิทยานิพนธ์ (วท.ม. เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า, 2542. 120 หน้า.

2542

บทคัดย่อ

การใช้อุณหภูมิสลับและอุณหภูมิสูงก่อนการเก็บรักษาที่ อุณหภูมิต่ำต่ออาการสะท้านหนาวและคุณภาพของผลมะละกอพันธุ์แขกดำ

                มะละกอพันธุ์แขกดำ  นำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5  15 องศาเซลเซียส  และเก็บรักษาโดยใช้อุณหภูมิสลับเป็นเวลา  3  วัน  ที่ 2 ระดับอุณหภูมิ คือ  15  และ  20  องศาเซลเซียส  จากนั้นย้ายไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5  องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  2  วัน  ทำการสลับอุณหภูมิ  2  ครั้ง  และการใช้อุณหภูมิสูงที่ 2  ระดับอุณหภูมิคือ  อุณหภูมิ  38 องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  24  และ  48  ชั่วโมง  และอุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  6  และ  12  ชั่วโมง  จากนั้นย้ายไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5  องศาเซลเซียสตลอดการทดลอง  พบว่าผลมะละกอที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5 องศาเซลเซียส  เกิดอาการสะท้านหนาวมากที่สุด  โดยอาการสะท้านหนาวที่พบ  ได้แก่  การเกิดรอยบุ๋ม  (pitting)  และเมื่อย้ายมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องพบว่าผลมะละกอไม่สามารถสุกได้ตามปกติ   ในขณะที่ผลมะละกอที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ  15  องศาเซลเซียส  ไม่พบอาการสะท้านหนาวและสามารถสุกได้ตามปกติ  ส่วนการใช้อุณหภูมิสลับ  พบว่า  สามารถลดการเกิดอาการสะท้านหนาวได้  โดยมีดัชนีการเกิดอาการสะท้านหนาว  และการรั่วไหลของประจุน้อยกว่าผลมะละกอที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5 องศาเซลเซียส  นอกจากนี้การใช้อุณหภูมิสลับสามารถทำให้ผลมะละกอมีการสุกที่ดีขึ้น  โดยมีการเปลี่ยนแปลงสีผิวปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้  ปริมาณน้ำตาลรีดิวซิงค์  เพิ่มขึ้นมากกว่า  ส่วนความแน่นเนื้อลดลงมากกว่าผลมะละกอที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5  องศาเซลเซียส  และการใช้อุณหภูมิสลับ  15  และ   20  องศาเซลเซียส  พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในประสิทธิภาพการลดอาการสะท้านหนาว  แต่การเก็บรักษาโดยใช้อุณหภูมิสลับ  15 องศาเซลเซียส  มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าการเก็บรักษาโดยใช้อุณหภูมิสลับ  20  องศาเซลเซียส  สำหรับการใช้อุณหภูมิสูงก่อนการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ  5 องศาเซลเซียส  พบว่า  สามารถลดการเกิดอาการสะท้านหนาวได้  โดยผลมะละกอที่ใช้อุณหภูมิสูง  42  องศาเซลเซียส  เป็นเวลา  6 ชั่วโมง  สามารถลดการเกิดอาการสะท้านหนาวดีที่สุด  โดยมีดัชนีการเกิดอาการสะท้านหนาว  และการรั่วไหลของประจุน้อยที่สุด  มีการสุกที่ดี  การเปลี่ยนแปลงสีผิว  ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ปริมาณน้ำตาลรีดิวซิงค์  และปริมาณโพลีเอมีน  เพิ่มมากกว่าผลมะละกอที่ได้รับอุณหภูมิสูงระดับอื่น ๆ  ส่วนการเปลี่ยนแปลงความแน่นเนื้อ  พบว่ามีความแน่นเนื้อของผลลดลงมากกว่าผลมะละกอที่เก็บรักษาในระดับอุณหภูมิอื่น ๆ