การคัดเลือกสารสกัดจากพืชบางชนิดที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคขั้วผลเน่าและแอนแทรคโนสของมะม่วง
วรางคณา คทาวัชรกุล ผ่องเพ็ญ จิตอารีย์รัตน์ รุ่งนภา ก่อประดิษฐ์สกุล และ เฉลิมชัย วงษ์อารี
บทคัดย่องานวิจัยประจำปี 2548, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, กรุงเทพฯ. หน้า 181-182 (361 หน้า)
2543
บทคัดย่อ
การทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชในการยับยั้งการเจริญจองเส้นใย และการงอกของสปอร์เชื้อรา Lasiodiplodia theobromae และ Colletotrichum gloeosporiodes สาเหตุโรคขั้วผลเน่าและโรคแอนแทรคโนสในมะม่วง พบว่าสารสกัดที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากส่วนของใบดาวเรือง (ดาวเรือง L-P) ที่ความเข้มข้น 5,000 และ 10,000 ppm ยับยั้งการเจริญของเส้นใยของเชื้อรา Lasiodiplodia theobromae ได้ดีที่สุด โดยสามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราได้ 99.6 และ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และมีค่า ED50 ต่ำที่สุดคือ 100 ppm ส่วนสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากส่วนของดอกดาวเรือง (ดาวเรือง FL-P) ที่ความเข้มข้น 10,000 ppm สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยของเชื้อรา Colletotrichum gloeosporiodes ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อพิจารณาถึงค่า ED50 พบว่าสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากส่วนของใบดาวเรืองมีค่า ED50 ต่ำที่สุดคือ 500 ppm จากการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชต่อการยับยั้งการงอกของสปอร์เชื้อรา Colletotrichum gloeosporiodes พบว่าสารสกัดจากพืชที่ใช้ในการทดสอบทุกชนิด ได้แก่ สารสกัดที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากส่วนดอกดาวเรือง ใบดาวเรือง และดอกมะละกอ (มะละกอ FL-P) และสารสกัดด้วยเมทาลีน คลอไรด์จากส่วนของดอกดาวเรือง (ดาวเรือง FL-NP) และดอกมะละกอ (มะละกอ FL-NP) ที่ความเข้มข้น 5,000 และ 10,000 ppm มีประสิทธิภาพดีในการยับยั้งการงอกของสปอร์ โดยสารสกัดจากใบดาวเรืองที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์ และสารที่สกัดด้วยเมทาลีนคลอไรด์จากส่วนของดอกดาวเรืองมีค่า ED50 250 และ 2,500 ppm ตามลำดับ ส่วนสารสกัดที่มีประสิทธิภาพดีในการยับยั้งการงอกของสปอร์ Lasiodiplodia theobromae คือสารที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์จากส่วนของใบดาวเรือง และสารที่สกัดด้วยเมทาลีนคลอไรด์จากสวนของดอกดาวเรืองมีค่าการยับยั้งคือ 94 และ 91 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ การทดสอบประสิทธิภาพสารจากใบดาวเรืองในส่วนที่ละลายน้ำและละลายในแอลกอฮอล์พบว่า สารจากส่วนของแอลกอฮอล์มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราทั้ง 2 ชนิดได้ดีกว่าสารจากใบดาวเรืองในส่วนของน้ำ