บทคัดย่องานวิจัย

ผลของการเก็บเกี่ยวล่าช้า วิธีการนวด และการเก็บรักษาในสภาพต่างๆ ต่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง (Glycine max (L.) Merr.)

อนงค์ รัตนอุบล

วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขาวิชาพืชไร่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2531. 86 หน้า.

2531

บทคัดย่อ

ผลของการเก็บเกี่ยวล่าช้า วิธีการนวด และการเก็บรักษาในสภาพต่าง ๆ ต่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง

                การศึกษาถึงผลของการเก็บเกี่ยวล่าช้า  วิธีการนวด  และการเก็บรักษาในสภาพต่าง ๆ  ต่อคุณภาพเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง  ได้ดำเนินการปลูกถั่วเหลือง  2 พันธุ์ คือ  สจ.2  และ สจ.4  ที่แปลงทดลองของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  วิทยาเขตกำแพงแสน  นครปฐม  ในปี พ.ศ. 2528  วางแผนการทดลองในแปลงแบบ  split  plot design  โดยมีพันธุ์เป็น  main plot  และอายุการเก็บเกี่ยวเมล็ดเป็น  sub plot  และดำเนินการทดสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ในห้องปฏิบัติการระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2529  วางแผนการทดลองแบบ  factorial in completely randomized design  ซึ่งมีสิ่งทดลอง  2 ปัจจัย  คือ  ประวัติของเมล็ดและสภาพการเก็บรักษา  โดยประวัติของเมล็ดประกอบด้วย  อายุการเก็บเกี่ยวเมล็ดที่ 10,  20  และ 30  วันหลังระยะสุกแก่ทางสรีระ  และวิธีการนวด  2 วิธี คือ  กะเทาะเมล็ดด้วยมือและใช้ไม้ทุบ  ส่วนสภาพการเก็บรักษามี  3 สภาพ คือ  สภาพไม่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์  สภาพเก็บรักษาเมล็ดที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส  และควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ของบรรยากาศเป็น  45  และ 90 เปอร์เซ็นต์  ตามลำดับ

            ผลการทดลอง  ปรากฏว่า  พันธุ์และอายุเก็บเกี่ยวไม่มีผลต่อผลผลิตของถั่วเหลือง  แต่คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองขึ้นกับประวัติของเมล็ดทั้งอายุเก็บเกี่ยวและวิธีการนวด  โดยเฉพาะถ้าการเก็บเกี่ยวช้าเกินไป  ซึ่งพบว่าเก็บเกี่ยวเมล็ดที่ 30  วันหลังระยะสุกแกทางสรีระทำให้คุณภาพเมล็ดพันธุ์ต่ำที่สุด  และวิธีการนวดโดยการกะเทาะเมล็ดด้วยมือ ทำให้เมล็ดมีคุณภาพดีกว่าการใช้ไม้ทุบ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการนวดโดยใช้ไม้ทุบกับเมล็ดที่ถูกเก็บเกี่ยวช้า  หรือกับเมล็ดที่มีความชื้นของเมล็ดสูงเนื่องจากถูกฝนก่อนการเก็บเกี่ยวจะช่วยเพิ่มความเสียหายให้แก่เมล็ดมากยิ่งขึ้น          นอกจากนี้   คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองยังขึ้นกับสภาพการเก็บรักษาอีกด้วย  สภาพที่ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ของบรรยากาศที่ระดับ 45 เปอร์เซ็นต์สามารถเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ให้คงคุณภาพได้ดีที่สุด  ในทางตรงกันข้ามเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ของสภาพเก็บรักษาเพิ่มสูงถึง  90  เปอร์เซ็นต์ ทำให้เมล็ดเสื่อมคุณภาพเร็วที่สุด