การศึกษาการอบแห้งข้าวเปลือกโดยเทคนิคฟลูอิไดเซซันระดับอุตสาหกรรม
สรายุทธ์ สมิตะโยธิน
วิทยานิพนธ์ (วศ.ม. เทคโนโลยีการจัดการพลังงาน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, 2542. 126 หน้า.
2542
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการอบแห้งข้าวเปลือกโดยเทคนิคฟลูอิไดเซชัน ระดับอุตสาหกรรม โดยวิเคราะห์การใช้พลังงาน ค่าใช้จ่ายในการอบแห้ง และทดสอบคุณภาพข้าวหลังการอบแห้ง เพื่อหาสภาวะการทำงานที่เหมาะสม และเปรียบเทียบผลการทดลองระหว่างกรณีใช้หัวเผาน้ำมันดีเซลและเตาเผาแกลบแบบไซโคลนเป็นแหล่งให้ความร้อนในการอบแห้ง จากผลการทดลองพบว่า สภาวะการทำงานที่เหมาะสมกรณีใช้หัวเผาน้ำมันดีเซลมีอัตราส่วนอากาศเวียนกลับอยู่ในช่วง 45 – 60 % ซึ่งมีปริมาณการใช้พลังงานปฐมภูมิจำเพาะต่ำอยู่ระหว่าง 5 – 5.7 MJ/kg-water evap. ค่าใช้จ่ายในการอบแห้งรวม 1.61 Baht/ kg-water cvap. แบ่งเป็นเงินลงทุนค่าเครื่องอบแห้ง 0.19 Baht/kg-water evap. ค่าน้ำมันดีเซล 1.17 Baht/kg-water evap. ค่าไฟฟ้า 0.19 Baht/kg-water evap. และค่าบำรุงรักษา 0.06 Bath/kg-water evap. กรณีใช้เตาเผาแกลบแบบไซโคลน มีปริมาณการใช้พลังงานปฐมภูมิจำเพาะเฉลี่ย 9.3 MJ/kg-water evap ประสิทธิภาพทางความร้อนของระบบเตาเผาแกลบเฉลี่ย 75 % ค่าใช้จ่ายในการอบแห้งรวม 0.83 Baht/kg-water cvap. แบ่งเป็นเงินลงทุนค่าเครื่องอบแห้งและเตาเผาแกลบ 0.39 Baht/kg-water cvap. ค่าแกลบ 0.05 Baht/kg-water cvap ค่าไฟฟ้า 0.29 Baht/kg-water cvap. และค่าบำรุงรักษา 0.1 Baht/kg-water cvap. กรณีเปลี่ยนจากการใช้หัวเผาน้ำมันดีเซลเป็นเตาเผาแกลบแบบไซโคลน มีระยะเวลาคืนทุน 1,176 h ผลการทดสอบเปอร์เซ็นต์ข้าวต้น ความขาว และคุณภาพการบริโภคพบว่า ข้าวที่ผ่านการอบแห้งกรณีใช้หัวเผาน้ำมันดีเซลและเตาเผาแกลบแบบไซโคลน มีคุณภาพไม่แตกต่างจากข้าวอ้างอิงมากนัก จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่เป็นปัญหาสำหรับการซื้อขายและการบริโภค