บทคัดย่องานวิจัย

การวิเคราะห์เปรียบเทียบวิธีการควบคุมโรคผลเน่าของกล้วยหอมทองขณะเก็บรักษา

เรืองสุนทร จ้อยบรรดิษฐ์

วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (เกษตรศาสตร์)) สาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2529, 75 หน้า.

2529

บทคัดย่อ

การวิเคราะห์เปรียบเทียบวิธีการควบคุมโรคผลเน่าของกล้วยหอมทองขณะเก็บรักษา จากการศึกษาความเสียหายของผลกล้วยหอมทองหลังการเก็บเกี่ยวจากตลาด 3 ตลาด พบโรค 4 โรคด้วยกัน ได้แก่ โรคขั้วหวีเน่า โรคขั้วผลเน่า โรคแอนแทรคโนส และโรค Botryodiplodia finger rot โรคขั้วหวีเน่าเป็นโรคที่รุนแรงที่สุด เสียหายประมาณ 91.43-100% โรคขั้วผลเน่าทำให้เกิดความเสียหายรองลงมาประมาณ 44.05-64.25% ส่วนอีกสองโรคที่เหลือ คือ โรคแอนแทรคโนส และ โรค Botryodiplodia finger rot เกิดเพียงเล็กน้อย

จากการตรวจสอบเชื้อสาเหตุพบว่า เชื้อสาเหตุของโรคขั้วหวีเน่า ได้แก่ Botryodiplodia theobromae, Colletotrichum musae, Fusarium moniliforme, Curvularia sp., Aspergillus niger; โรคขั้วผลเน่า ได้แก่ เชื้อรา Botryodiplodia theobromae และ Colletotrichum musae; โรคแอนแทรคโนส ได้แก่ เชื้อรา Colletotrichum musae และโรค Botrydiplodia finger rot ได้แก่ Botryodiplodia theobromae

และจากการเปรียบเทียบวิธีการป้องกันกำจัด แสดงให้เห็นว่า การป้องกันกำจัดโรคหลังการเก็บเกี่ยวของผลกล้วยหอมโดยวิธีการจุ่มในสารเคมี 2 นาที หรือฉีดพ่นด้วยสารเคมี benomyl, thiabendazole, thiophanate-methyl ที่ความเข้มข้น 300-500 ppm สามารถลดการเกิดโรคได้ วิธีการที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลดีที่สุด ได้แก่ benomyl ที่ความเข้มข้น 300 ppm ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อใช้วิธีการฉีดพ่นด้วยสารเคมี benomyl บนกล้วยหอมประมาณ 0.21-0.22 บาท/หวี และ 1.02-1.51 บาท/หวี เมื่อจุ่มผลกล้วยหอมในสารเคมี