เทคนิคการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟในกล้วยไม้ตัดดอกเพื่อการส่งออก
วลัยกร วรวิศิษฎ์ธำรง
วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2532. 80 หน้า.
2532
บทคัดย่อ
เทคนิคการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟในกล้วยไม้ตัดดอกเพื่อการส่งออก
การศึกษาการกระจายของเพลี้ยไฟกล้วยไม้
2 ชนิด คือ
Dichromothrips corbetti Priesner และ
Thripus palmi Karny ในรอบปีระหว่างเดือน มกราคม 2529-
มกราคม 2530 ที่สวนกล้วยไม้ซึ่งผลิตเพื่อการส่งออก
เขตภาษีเจริญ ตลิ่งชัน และสามพราน พบว่า
การระบาดของเพลี้ยไฟมีมากในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน
โดยเฉพาะเดือนเมษายนมีการระบาดสูงสุด
การศึกษาอัตราของสารรมไฮโดรเจนไซยาไนด์เพื่อกำจัดเพลี้ยไฟกล้วยไม้ พบว่า
ไฮโดรเจนไซยาไนด์ทุกอัตราสามารถกำจัดเพลี้ยไฟได้ทั้งระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย
แต่เมื่อรมที่อัตราสูง ๆ
ทำให้อายุการปักแจกันของหวายปอมปาดัวร์และอินทุวงศ์สั้นเพียง 1.67 วัน
อัตราที่เหมาะสมในการทดลองนี้ คือ โซเดียมไซยาไนด์ 80 กรัม + กรดซัลฟูริคเข้มข้น
200 มิลลิลิตร + น้ำ 180 มิลลิลิตร
และกล้วยไม้หวายปอมปาดัวร์และอินทุวงศ์มีอายุการปักแจกันเท่ากัน 6.33 วัน
ในตัวเปรียบเทียบ 7.33 และ 8.33 วัน ตามลำดับ การศึกษาประสิทธิภาพของสารฆ่าแมลงบางชนิดในการกำจัดเพลี้ยไฟกล้วยไม้ด้วยวิธีการจุ่มดอก
พบว่า สารฆ่าแมลง promecarb 30% อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร,
W.P.carbosulfan 21.6% w/w E.C.อัตรา 50
มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และ endosulfan
35% w/v E.C. อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ให้ผลดีในการกำจัดเพลี้ยไฟกล้วยไม้
และกล้วยไม้หวายปอมปาดัวร์ที่จุ่มในสารฆ่าแมลงดังกล่าวมีอายุการปักแจกัน 5.56 วัน,
5.78 วัน และ 4.89 วัน ตามลำดับ
ส่วนตัวเปรียบเทียบมีอายุการปักแจกัน 8.78 วัน