ผลของการเคลือบไขต่อพฤติกรรมการเก็บรักษาผักและผลไม้บางชนิด
รุ่งทิพย์ จูฑะมงคล
วิทยานิพนธ์ (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การอาหาร)) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2536. 169 หน้า.
2536
บทคัดย่อ
ผลของการเคลือบไขต่อพฤติกรรมการเก็บรักษาผักและผลไม้บางชนิด
การเคลือบมะม่วงแรด
แครอท พริกหวานและมะนาวด้วยอิมัลชันไข 3 สูตร คือ อิมัลชันไขรำข้าว
ไขผสมรำข้าวกับคาร์นูบาและไขคาร์นูบาซึ่งผลิตขึ้นเองที่ระดับความเข้มข้นต่างกัน 4 ระดับ
แล้วจึงตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีของผักผลไม้ตัวอย่าง พบว่า
สูตรอิมัลชันไขรำข้าวที่เหมาะสมในการทดลองนี้ประกอบด้วยไขรำข้าว 121 กรัม กรดโอเลอิก 38.4 กรัม ไตรเอททาโนลามีน 24
กรัม น้ำ 56 กรัมและไขพาราฟิน 48 กรัม
จากการเคลือบผักผลไม้ตัวอย่างพบว่าปริมาณอิมัลชันไขที่ใช้ไปแตกต่างกันตามชนิดของผักผลไม้และสูตรอิมัลชัน
การเคลือบแครอทด้วยอิมัลชันไขผสมรำข้าวกับคาร์นูบาสิ้นเปลืองมากที่สุด (1.6-2.0
เปอร์เซ็นต์) การเปลี่ยนแปลงของผักและผลไม้ที่เคลือบด้วยอิมัลชันไขทั้ง
3 สูตรมีผลต่อการรักษาสีเขียวของคลอโรฟิลล์ของผิวผักผลไม้ได้อย่างชัดเจนแต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสีแคโรตินอยด์
และมีผลต่อการลดการสูญเสียน้ำหนักได้เด่นชัดในผักผลไม้ทุกชนิด
มะม่วงแรดเคลือบด้วยอิมัลชันไขผสมรำข้าวกับคาร์นูบา 8 เปอร์เซ็นต์สูญเสียน้ำหนัก
2.8 เปอร์เซ็นต์เทียบกับไม่เคลือบไขสูญเสียน้ำหนัก 12.4
เปอร์เซ็นต์
เมื่อเก็บไว้ 5 วันที่อุณหภูมิ 30-35
oซ. แครอทเคลือบผิวด้วยอิมัลชันไขผสมรำข้าวกับคาร์นูบา
8 เปอร์เซ็นต์สูญเสียน้ำหนัก 18.0 และ
22.3 เปอร์เซ็นต์เทียบกับไม่เคลือบไขสูญเสียน้ำหนัก 36.9 และ 57.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเก็บไว้ 10 วันที่อุณหภูมิ 30-35
oซ. และ 22
oซ. ตามลำดับ
พริกหวานเคลือบด้วยอิมัลชันไขรำข้าวความเข้มข้นไข 10 เปอร์เซ็นต์สูญเสียน้ำหนัก
9.0 เปอร์เซ็นต์เทียบกับไม่เคลือบไขสูญเสียน้ำหนัก 18.3
เปอร์เซ็นต์เมื่อเก็บไว้ 7 วันที่อุณหภูมิ
22
oซ. มะนาวแป้นเคลือบด้วยอิมัลชันไขรำข้าวความเข้มข้นไข
10 เปอร์เซ็นต์ด้วยวิธีจุ่มสูญเสียน้ำหนัก 22.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเก็บไว้ 30 วันเทียบกับไม่เคลือบไขสูญเสียน้ำหนัก
23.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเก็บไว้ 10 วันที่อุณหภูมิ
30-35
oซ. การเปลี่ยนแปลงอัตราการหายใจ ความแน่นเนื้อ
ปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำทั้งหมด ปริมาณกรดทั้งหมด
พีเอชและปริมาณน้ำคั้นของผักผลไม้เคลือบไขไม่น้อยกว่าที่ไม่เคลือบไข