การบ่ม การเปลี่ยนแปลงหลังการเก็บเกี่ยวภายใต้อิทธิพลของอุณหภูมิและคาร์บอนไดออกไซด์กับการขจัดความฝาดของผลละมุด (Achras sapota Linn.)
สุชัญญา จันทร์ทักษิโณภาส
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (เกษตรศาสตร์)) สาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2530, 111 หน้า.
2530
บทคัดย่อ
การบ่ม
การเปลี่ยนแปลงหลังการเก็บเกี่ยวภายใต้อิทธิพลของอุณฆภูมิและคาร์บอนไดออกไซด์กับการขจัดความฝาดของผลละมุด
(Archras sapota Linn.)
การศึกษาการบ่ม
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและชีวเคมีระหว่างการเก็บรักษาผลละมุดสด
และการขจัดความฝาดด้วยก๊าซ CO
2 โดยใช้ละมุดพันธุ์มะกอก
หลังจากบ่มด้วยก๊าซ C
2H
4
ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาการบ่มต่าง ๆ กัน แล้วนำไปเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง (29
oซ. RH 76%) ปรากฏว่าพวกที่บ่มด้วย C
2H
4
150 และ 200 ppm นาน 24 ชั่วโมง
ทำให้ผลสุกหมดในเวลา 2 วันหลังจากทำการบ่ม
ในช่วงนี้ผลละมุดสูญเสียน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 3% ต่อวัน ความแน่นเนื้อลดลงจาก 13.0 เหลือ 3.5 กก/ซม.
2
soluble solids (SS) และปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ (TA) ในรูปกรดซิตริกอยู่ในช่วง 18.1-20.1% และ 0.03-0.05% ตามลำดับ
ผลละมุดสดในถุงพลาสติกที่พับปากถุงซึ่งเก็บรักษา
ณ อุณหภูมิ 9
oซ. RH 65% สามารถเก็บรักษาได้นาน 45 วัน โดยผลละมุดสูญเสียน้ำหนักไปถึง 39.7%
และผลยังคงความฝาดอยู่ เมื่อนำผลละมุดชุดนี้ออกมาบ่มให้สุกหลังจากการเก็บรักษาทุก
ๆ 3 วัน ปรากฏว่าปริมาณคลอโรฟิลล์ของผลละมุดสุกชุดแรกมีค่า 0.27
มก/100 ก น้ำหนักสด แล้วลดลงอย่างช้า ๆ เหลือ 0.17
มก/100 ก น้ำหนักสดเมื่อเก็บรักษาไว้ 45
วัน ในทำนองเดียวกัน SS ลดลงจาก 19.4 เหลือ 18.1% ส่วนกรดในผลละมุดมีปริมาณน้อยมาก
ไวตามินซีมีค่าลดลงจาก 30.1 เหลือ 11.1 มก/100 ก น้ำหนักสด ส่วนความแน่นเนื้อในแต่ละ 3
วัน ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งเก็บรักษาไว้ 33 วัน
มีค่าลดลงอย่างช้า ๆ จาก 5.3 เหลือ 3.7 กก/ซม
2 หลังจากนั้นผลมีความแน่นเนื้อมากขึ้นเป็น
10.5 กก/ซม
2 เมื่อเก็บรักษาไว้ 45 วัน และแสดงอาการ chilling
injury ซึ่งไม่สามารถบ่มให้สุกได้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเก็บรักษาผลละมุดที่อุณหภูมิ
1
oซ. RH 59% และ 5
oซ. RH 63% ปรากฏว่าความฝาดของผลละมุดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่อุณหภูมิ 1
oซ. ผลละมุดจะหายฝาดเมื่อเก็บรักษาได้ 24 วัน ทั้งนี้ถ้าเก็บรักษาไว้ต่อไปจนครบ 30 วัน
ผลละมุดแสดงอาการ chilling injury
การเก็บรักษาผลละมุดในถุงพลาสติกปิดสนิทในบรรยากาศที่มีความเข้มข้นของ
CO
2
0 5 และ 10% (v/v) ณ อุณหภูมิต่าง ๆ
พบว่าที่อุณหภูมิ 9
oซ. RH 66% สามารถเก็บรักษาผลละมุดได้เป็นเวลานาน 51 วัน
โดยสูญเสียน้ำหนักไป 14% การเปลี่ยนแปลงความฝาด SS TA
ไวตามินซีและความแน่นเนื้อเกิดขึ้นไปในแนวทางเดียวกันกับพวกซึ่งเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ
9
oซ. ในถุงพลาสติกพับปากถุง ส่วนที่อุณหภูมิ 1
oซ. RH 60% และ 5
oซ.
RH 62% ในบรรยากาศที่มีความเข้มข้นของ CO
2 ทั้ง 3 ระดับความฝาดหายไปเมื่อเก็บรักษาเป็นระยะเวลา
27 และ 30 วัน ตามลำดับ
การบ่มผลละมุดให้หายฝาดด้วย
CO
2 พบว่าพวกที่บ่มใน CO
2 100% โดยใช้วิธี infiltration
ณ อุณหภูมิห้อง ความฝาดของผลหายไปภายในเวลา 4
วัน โดยยังคงมีความกรอบและแน่นเนื้อมาก คือ 18.3 กก/ซม
2 ปริมาณกรดลดลงจาก 0.10 เหลือ 0.07% และไวตามินซีลดลงจาก 25.42 เหลือ 9.25 มก/100 ก
น้ำหนักสด และผลมีรสหวานมีค่า SS 18.1% อย่างไรก็ดี
ผลยังมีน้ำยางในเนื้อบ้างเล็กน้อย