ผลกระทบของ contact icing อุณหภูมิ และ คาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของหน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus officinalis L.)
จำนง อุทัยบุตร
วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (เกษตรศาสตร์)) สาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2528, 109 หน้า.
2528
บทคัดย่อ
ผลกระทบของ contact icing อุณหภูมิ และ คาร์บอนไดออกไซด์
ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของหน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus
officinalis L.)
ทำการศึกษาคุณภาพของหน่อไม้ฝรั่งหน่อสีขาว
(ไม่มีเกรด) และหน่อสีเขียว (เกรด A B และ C คัดเกรดโดยสมาชิกของสหกรณ์) จากสหกรณ์การเกษตรหุบกระพง อำเภอชะอำ
จังหวัดเพชรบุรี ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2526 ถึงเดือนมิถุนายน 2527
จากการศึกษาพบว่าหน่อไม้ฝรั่งประเภทหน่อสีขาวมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ส่วนโคนของหน่อ
14.62 มิลลิเมตร ในขณะที่หน่อสีเขียวเกรด
A B และ C มีเส้นผ่าศูนย์กลางของหน่อ
10.71 7.31 และ 5.93 มิลลิเมตร
ตามลำดับ ส่วนความยาวของหน่อสีขาวและหน่อสีเขียวเกรด A B และ
C เท่ากับ 16.69
29.69 29.39 และ 30.15 เซนติเมตร
ตามลำดับ น้ำหนักต่อหน่อของหน่อสีขาวมีค่าเท่ากับ 19.35 กรัม
โดยที่หน่อสีเขียวเกรด A B และ C มีน้ำหนักต่อหน่อเท่ากับ
16.67 7.61 และ 4.98 กรัม
สำหรับหน่อไม้ฝรั่งแต่ละเกรดมีคุณภาพของหน่อคือ หน่อสีขาวมีปริมาณคลอโรฟิลล์ 5.4
มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ไวตามินซี 27.63
มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ปริมาณ soluble
solids 6.96% ปริมาณ reducing sugar 210.52 มิลลิกรัมดี-กลูโคสต่อ 1 กรัมน้ำหนักแห้ง
และมีปริมาณเส้นใยทั้งหน่อเป็น 1.52% ส่วนหน่อเกรด A
B และ C มีปริมาณคลอโรฟิลล์ 19.4 11.8 และ 23.5 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ไวตามินซี
33.23 31.20 และ 27.70 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ปริมาณ soluble
solids 5.12 4.95 และ 4.80% ปริมาณ reducing sugar 187.54 135.81 และ 92.39 มิลลิกรัมดี-กลูโคสต่อ 1 กรัมน้ำหนักแห้ง
และมีปริมาณเส้นใยทั้งหน่อเป็น 0.68 0.94 และ 1.29%
นอกจากนี้ได้ทำการศึกษาผลของ
contact
icing อุณหภูมิ
และคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีต่อคุณภาพและอายุการเก็บรักษาของหน่อไม้ฝรั่งเกรด A
จากแหล่งเดียวกันกับข้างต้น
โดยขนส่งหน่อไม้ฝรั่งมาทั้งที่มีและไม่มีน้ำแข็งป่นโรยสลับ (1:1 โดยน้ำหนัก) แล้วนำมาแยกเก็บรักษาไว้ในตะกร้าพลาสติก
ใส่ถุงพลาสติกพับปากถุงและใส่ถุงพลาสติกปิดปากถุงให้สนิท
พร้อมกับเติมคาร์บอนไดออกไซด์ให้บรรยากาศภายในเมื่อเริ่มทดลองมีความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์
0 (ไม่ได้เติมคาร์บอนไดออกไซด์) 5 10 และ 20% แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 1
oซ. และความชื้นสัมพัทธ์ 62%
5
oซ. และความชื้นสัมพัทธ์ 64% 9
oซ.
และความชื้นสัมพัทธ์ 68% และอุณหภูมิห้อง (27.8
oซ.)และความชื้นสัมพัทธ์
71.8% จากการศึกษาพบว่าหน่อไม้ฝรั่งที่ขนส่งมาทั้งที่มีและไม่มีน้ำแข็งป่นโรยสลับ
และเก็บไว้ในถุงพลาสติกปิดปากถุงที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ 20% ที่อุณหภูมิ 1
oซ.ให้ผลดีที่สุดและสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน 40 วันโดยยังมีคุณภาพดีอยู่
หน่อไม้ฝรั่งมีการสูญเสียน้ำหนักน้อยที่สุดคือเฉลี่ย 1.13%
และยังคงรักษาความสดไว้ได้โดยมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณคลอโรฟิลล์จาก 25.35 เหลือ
14.80 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ปริมาณไวตามินซีลดลงอย่างมากจาก 30.89 เหลือ
12.15 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมน้ำหนักสด ปริมาณ soluble solids ลดลงเล็กน้อย จาก 5.02 เหลือ 4.13% ปริมาณ reducing sugar ลดลงจาก 169.18 เหลือ 86.65 มิลลิกรัมดี-กลูโคสต่อ 1 กรัมน้ำหนักแห้ง
และปริมาณเส้นใยทั้งหน่อเพิ่มขึ้นจาก 0.67 เป็น 1.03%
หน่อไม้ฝรั่งที่เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 5
oซ. และ
9
oซ. สามารถเก็บรักษาไว้ได้ 29 และ 12
วันตามลำดับ
ส่วนหน่อไม้ฝรั่งที่เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิห้องหมดสภาพการซื้อขายภายในเวลาเพียง 2
วัน
ปริมาณเส้นใยของหน่อไม้ฝรั่งในแต่ละส่วน
(ยาวส่วนละ 5 เซนติเมตร) มีไม่เท่ากัน
โดยส่วนโคนของหน่อมีเส้นใยมากกว่าส่วนที่อยู่ขึ้นไปคือ 1.55 0.95 0.53 0.85 และ
0.10% ตามลำดับ เมื่อเก็บรักษาไว้นานขึ้น ปริมาณเส้นใยในแต่ละส่วนมีเพิ่มขึ้น
ซึ่งเพิ่มขึ้นจากส่วนโคนไล่ขึ้นไปสู่ส่วนถัดขึ้นไป
หน่อไม้ฝรั่งที่เก็บรักษาไว้ในถุงพลาสติกปิดปากถุงที่มีคาร์บอนไดออกไซด์
5-20% ที่อุณหภูมิ 1 5 และ 9
oซ.
พบว่าสามารถชะลอการเพิ่มของปริมาณเส้นใยในหน่อไม้ฝรั่งได้
สำหรับหน่อไม้ฝรั่งที่ขนส่งมาโดยมีน้ำแข็งป่นโรยสลับมีการสูญเสียไวตามินซีน้อยกว่าหน่อไม้ฝรั่งที่ขนส่งมาโดยไม่มีน้ำแข็งป่นโรยสลับ
ส่วนคุณภาพอื่น ๆ แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น