ผลของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ เอทิลีน และอายุผล ที่มีต่อการสุกและคุณภาพของทุเรียนพันธุ์ชะนี
สุจิตร์ แพ่งกุล
วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2536. 125 หน้า.
2536
บทคัดย่อ
ผลของอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ เอทิลีน และอายุผล
ที่มีต่อการสุกและคุณภาพของทุเรียนพันธุ์ชะนี
ผลทุเรียนที่บ่มในสภาพที่มีความชื้นสัมพัทธ์
83 และ 93% มีการสูญเสียน้ำหนักน้อย
เปลือกมีสีเขียวสดและปอกเปลือกได้ยาก ขณะที่ผลซึ่งบ่มในสภาพที่มีความชื้นสัมพัทธ์
75% มีการสูญเสียน้ำหนักมาก
เปลือกมีสีเขียวอมเหลืองและปลอกเปลือกได้ง่าย แต่ผลที่บ่มในทุกระดับความชื้นสัมพัทธ์มีคุณภาพของเนื้อในระยะผลสุกไม่ต่างกัน
ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการสุกคือ 39 และ 30
oซ. ทำให้ผลทุเรียนมีการพัฒนาสี ปริมาณ b-carotene และมีรสของเนื้อดีที่สุด
อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์แสดงผลร่วมกันต่อการสุก ซึ่งสภาพที่เหมาะสมที่สุด คือ 33
oซ. และความชื้นสัมพัทธ์ 70% โดยผลทุเรียนที่บ่มมีกระบวนการสุกเกิดได้เร็ววก่าผลที่บ่มภายใต้สภาพที่มีอุณหภูมิร่วมกับความชื้นสัมพัทธ์
30
oซ. และ 70%, 33
oซ. และ 90% และ
30
oซ. และ 90%
ในการบ่มที่อุณหภูมิ
33
oซ. และความชื้นสัมพัทธ์ 60-70% พบว่ากระบวนการสุกบางอย่างของผลทุเรียนที่มีอายุน้อย (100 และ 105 วัน) ตอบสนองต่อเอทิลีนน้อยกว่าผลที่มีอายุมาก
(110 วัน)
โดยไม่เร่งทุเรียนให้สุกเร็วขึ้นและมีคุณภาพไม่ต่างกัน ขณะที่ผลอายุ 110 วันที่ได้รับเอทิลีน 180 และ 360 ppm มีการลดลงของความแน่นเนื้อและการเพิ่มขึ้นของปริมาณ soluble solids
และ total sugars
เร็วกว่าผลที่ไม่ได้รับเอทิลีน อย่างไรก็ตาม ผลทุเรียนทั้ง
3 ระดับอายุที่ผ่านการบ่มด้วยเอทิลีนมีคุณภาพดีสม่ำเสมอและสุกได้เร็วกว่าผลที่บ่มในสภาพอุณฆภูมิห้อง
(28-34
oซ. และความชื้นสัมพัทธ์ 65-75%)
โดยไม่ใช้เอทิลีน