โรคขั้วผลเน่าของผลมะม่วงภายหลังการเก็บเกี่ยวที่เกิดจากเชื้อรา Dothiorella dominicana Pet. et. Cif. และการควบคุม
ผุสดี พันธุ์ประสิทธิ์
วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) สาขาโรคพืช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2529. 123 หน้า.
2529
บทคัดย่อ
การสำรวจโรคขั้วผลเน่าของผลมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ อกร่อง ทองคำ จากแหล่งปลูกอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พบเชื้อราสาเหตุโรคที่สำคัญ ได้แก่ Botryodiphldia theobromae 28.50 เปอร์เซ็นต์ Dothiorella spp. 26.67 เปอร์เซ็นต์ และ Phomopsis mangiferae 3.83 เปอร์เซ็นต์ โดยแสดงอาการที่ขั้วผลเป็นแผลสีดำเน่าลามอย่างรวดเร็วในลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก แต่มีรูปร่างและขนาดของเชื้อที่แตกต่างกันคือ B. theobromae สร้าง pycnidia สีดำ มีปากเกิดรูปร่างแบบ flask ขนาดเฉลี่ย 267.90 x 198.02 ไมครอน conidia มีเซลเดียว สีใส ผนังหนา รูปไข่ เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสองเซล สีน้ำตาล ขนาดเฉลี่ย 25.45 x 14.09 เชื้อรา D.dominicana สร้าง pycnidia สีดำ มีปากเปิด ขนาดเฉลี่ย 25.45 x 14.09
ไมครอน เชื้อรา D. dominicana สร้าง pycnidia สีดำ มีปากเปิด ขนาดเฉลี่ย 231 x 169.94 ไมครอน conidia มีเซลเดียว สีใส รูปร่างแบบ ovoid ถึง fusoid ขนาดเฉลี่ย 19.99 x 4.89 ไมครอน เชื้อรา D.mangiferae สร้าง pycnidia มีปากเปิด ผนังหนา ขนาดเฉลี่ย 218.40 x 162.86 ไมครอน conidia มีเซลเดียวสีใส ขนาดเฉลี่ย 19.23 x 3.98 ไมครอน ส่วนเชื้อรา P. mangiferae สร้าง pycnidia รูปถ้วย ผนังหนา ขนาดเฉลี่ย 276.64 x 225.06 ไมครอน conidia มีเซลเดียว สีใส ขนาดเฉลี่ย 6.98 x 2.6 ไมครอน
เชื้อรา D. dominicana เจริญได้ดีบน oat meal agar และสร้าง pycnidia ได้ดีใน glucose peptone agar หรือ malt extract agar อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราคือ 30 องศาเซลเซียส ที่ความเป็นกรดเป็นด่าง 4 – 6 การให้แสงแบบต่อเนื่องช่วยให้เชื้อราเจริญเติบโตและสร้าง pycnidia ได้ดีคือ sucrose และ D-glucose ตามลำดับ ส่วนแหล่งไนโตรเจนคือ L-methionine หรือ casein hydrolysate และ asparagine หรือ casein hydrolysate ตามลำดับ และพบว่า การเพิ่มแหล่งคาร์บอนช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและสร้าง pycnidia ได้ดีกว่าการเพิ่มไนโตรเจน
การปลูกเชื้อรา D. dominicana ลงบนผลมะม่วง โดยใช้เส้นใย หรือ conidia ทำให้เกิดโรคได้ดีเท่าเทียมกัน แต่การปลูกเชื้อเป็นเวลา 12 ชั่วโมง แสดงอาการของโรคได้ดีกว่าเวลา 6 ชั่วโมง และเชื้อเข้าทำลายผลมะม่วงทางบาดแผลเท่านั้น โดยเฉพาะส่วนขั้วผล เมื่อผลมะม่วงแสดงอาการของโรค พบว่าเปอร์เซ็นต์น้ำตาลภายในผลมะม่วงเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ขณะที่ผลมะม่วงแสดงอาการของโรคมากขึ้น
เชื้อรา D. dominicana จากประเทศออสเตรเลียและไทยมีความแตกต่างกันในลักษณะการเจริญเติบโตบนอาหาร ขนาดของ pycnidia conidia และ conidiophore เพียงเล็กน้อย แต่แหล่งของเชื้อจากประเทศไทยสามารถทำให้เกิดโรคและสร้าง pycnidia บนผลมะม่วงได้ดีกว่าแหล่งของเชื้อจากประเทศออสเตรเลีย
การใช้สารเคมี Benlate 75-C (carbendazim) และ Fundazole (benomy1) ความเข้มข้น 500 ppm. แช่ผลมะม่วงเป็นเวลานาน 3 5 หรือ 7 นาที ให้ผลในการควบคุมโรคขั้วผลเน่า ของผลมะม่วงที่เกิดจากเชื้อรา D. domonicana ได้ดี เช่นเดียวกับการใช้น้ำร้อนอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส แช่ผลมะม่วงเป็นเวลา 5 หรือ 7 นาที