ผลของสภาพบรรยากาศดัดแปลงแบบ semi-activeต่ออาการไส้สีน้ำตาลในสับปะรดที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ
หทัยทิพย์ นิมิตรเกียรติไกล วาริช ศรีละออง และ ศิริชัย กัลยาณรัตน์
บทคัดย่อ การประชุมวิชาการวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวแห่งชาติ ครั้งที่ 5, โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพมหานคร, 28-29 มิถุนายน 2550. 151 หน้า.
2550
บทคัดย่อ
ทำการเก็บผลสับปะรดในถุงพลาสติกชนิดโพลิเอทิลีน (หนา 45 ไมโครเมตร) และปล่อยแก๊สที่มีก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ภายในถุงในสัดส่วนดังนี้ 5% O2 + 5% CO2, 5% O2 + 10% CO2, 10% O2 + 5% CO2 และ 10% O2 + 10% CO2แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 90-95ในการทดลองนี้ได้ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงสีเปลือก อาการไส้สีน้ำตาล ปริมาณวิตามินซี และกิจกรรมเอนไซม์โพลิฟีนอลออกซิเดส โดยพบว่าการเก็บรักษาในสภาพบรรยากาศดัดแปลงแบบ semi-activeสามารถลดอาการไส้สีน้ำตาล และลดการเปลี่ยนแปลงค่าโทนสีเช่นเดียวกับคะแนนการเปลี่ยนแปลงสีเปลือก สับปะรดที่เก็บรักษาภายใต้สภาพที่มีก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์เริ่ม ต้นในสัดส่วนร้อยละ 10 และ 5ตามลำดับ มีคุณภาพดีที่สุดโดยมีอาการไส้สีน้ำตาลและกิจกรรมของเอนไซม์โพลิฟีนอลออกซิเดสลดลง และมีปริมาณวิตามินซีสูงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับสับปะรดที่เก็บในสภาพบรรยากาศดัดแปลงอื่น ๆ การเก็บรักษาในสภาพบรรยากาศดัดแปลงแบบ semi-activeสามารถยืดอายุการเก็บรักษาของสับปะรดได้ถึง 5 สัปดาห์เมื่อเปรียบ-เทียบกับชุดควบคุม แต่การเก็บรักษาในสภาพที่มีก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์เริ่มต้นที่ร้อยละ 10 และ 10ตามลำดับทำให้สับปะรดเกิดกลิ่นหมักภายหลังจากเก็บรักษาเป็นเวลา 4 สัปดาห์