ผลของขนาดผลขณะที่ห่อต่อคุณภาพผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้
ศิริพร พจนการุณ วิลาวัลย์ คำปวน สำอางค์ เกตุวราภรณ์ และอนรรค อุปมาลี
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร ปีที่ 39 ฉบับที่ 3 (พิเศษ). 2551. หน้า 237-240.
2551
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างขนาดผลขณะที่ห่อ ที่มีต่อคุณภาพผลผลิตของมะม่วงน้ำดอกไม้ โดยวางแผนการทดลองแบบแบบปัจจัยร่วมในสุ่มบูรณ์ภายในกลุ่ม (2x2 factorial in RCB) ปัจจัยที่ศึกษาประกอบด้วยขนาดผลที่ใช้ห่อแตกต่างกัน 2 ขนาด คือ 5-7 และ 9-11 เซนติเมตร และการใช้ถุงกระดาษคาร์บอนใหม่-เก่า 2 ระดับ คือ ถุงใหม่ และถุงเก่า 1 ปี ทดสอบในแปลงเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนชมรมผู้ปลูกมะม่วงพร้าวเพื่อการส่งออก อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 แปลง (บล็อก) ทำการศึกษาระหว่างเดือนตุลาคม 2550 ถึง มิถุนายน 2551 ผลการศึกษา ไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)ระหว่างการห่อผลทั้งสองขนาดด้านร้อยละผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ ร้อยละจำนวนผลเกรดเอ และเกรดซี โดยที่การห่อผลที่มีขนาด 9-11 เซนติเมตรจะมีร้อยละจำนวนผลเกรดบี ขนาดผลดิบ น้ำหนักผลดิบและผลสุก เปลือก และเนื้อผลสุก และขนาดความยาวเมล็ดสูงกว่าการห่อผลที่มีขนาด 5-7 เซนติเมตร สำหรับคุณภาพของผลมะม่วงนั้น ไม่พบความแตกต่างกันด้านค่าสี L* a* และ b* ของสีเปลือกผลสุก และเนื้อผลสุก ยกเว้นค่าสีของสีเปลือกผลดิบเท่านั้นที่การห่อผลที่มีขนาด 5-7 เซนติเมตรมีค่าสูงกว่า นอกจากนี้ ไม่พบความแตกต่างกันด้านค่าความแน่นเนื้อของผล และปริมาณกรดรวมที่ไตเตรตได้ ยกเว้นปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้ของผลที่ได้จากการห่อที่มีขนาด 9-11 เซนติเมตรจะมีค่ามากกว่า ดังนั้น สามารถสรุปในภาพรวมได้ว่า เกษตรกรควรห่อผลที่มีขนาด 9-11 เซนติเมตรจะได้ผลผลิตมะม่วงที่ดีกว่าทั้งเชิงปริมาณ และคุณภาพ