การประเมินความสามารถในการเก็บรักษาเมล็ดข้าวโพดหวานพิเศษลูกผสมที่ผ่านการเคลือบโดยวิธีการเร่งอายุ
วิทวัส ธีรธิติ และบุญมี ศิริ
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร ปีที่ 40 ฉบับที่ 3(พิเศษ). หน้า 331-334. 2552.
2552
บทคัดย่อ
การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความสามารถในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษลูกผสมที่ผ่านการเคลือบโดยวิธีการเร่งอายุ และการเก็บรักษาในห้องที่ควบคุมและไม่ควบคุมสภาพแวดล้อม ทำการทดลองที่ห้องตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินการทดลองโดยนำเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษเคลือบด้วยสารเคลือบร่วมกับสารป้องกันโรคราน้ำค้าง (เมทาแลกชิล) ด้วยเครื่องเคลือบรุ่น SKK09 จากนั้นแบ่งเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1นำมาเร่งอายุเมล็ดที่อุณหภูมิ 41 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 100เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 6 วัน โดยสุ่มตัวอย่างเมล็ดจากตู้เร่งอายุทุกๆ วัน ส่วนที่ 2 นำไปเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในห้องควบคุม และไม่ควบคุมสภาพแวดล้อม เป็นเวลา 10 เดือน โดยสุ่มเมล็ดตรวจสอบคุณภาพในการเก็บรักษาทุกๆ เดือนและศึกษาการเปลี่ยนแปลง ความงอกของเมล็ดที่เพาะในห้องปฏิบัติการและในสภาพไร่ และความเร็วในการงอก ผลการทดลองพบว่าความงอกของเมล็ดที่เพาะในห้องปฏิบัติการ และที่เพาะในสภาพไร่ รวมถึงความเร็ว ความเร็วในการงอกในการงอกของเมล็ดลดลงเมื่อระยะเวลาของการเร่งอายุ และการเก็บรักษาในสภาพควบคุม และไม่ควบคุมสภาพแวดล้อมที่นานขึ้น การเสื่อมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์โดยการเร่งอายุและการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ทั้ง 2 สภาพ มีการเปลี่ยนเปลี่ยนไปในทางเดียวกันแบบ Logisticซึ่งการเสื่อมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษดังกล่าว ได้จากการคำนวณโดยสมาการ logistic และค่าสัมประสิทธิ์การเสื่อมของเมล็ดพันธุ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเร่งอายุเป็นวิธีที่ใช้ประเมินคุณภาพ และอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษได้