บทคัดย่องานวิจัย

ผลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภาชนะบรรจุสารเคลือบเมธิลเซลลูโลสและกรดจิบเบอเรลลิคต่ออายุการเก็บรักษามังคุด

นพรัตน์ จันทร์ลอย

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว) คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี.150หน้า.2549.

2549

บทคัดย่อ

ผลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภาชนะบรรจุสารเคลือบเมธิลเซลลูโลสและกรดจิบเบอเรลลิคต่ออายุการเก็บรักษามังคุด

การศึกษาผลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ภาชนะบรรจุ เมธิลเซลลูโลสและกรดจิบเบลเรลลิคต่ออายุการเก็บรักษามังคุด ที่อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 95±5 พบว่าการเก็บรักษาผลมังคุดในถุงพลาสติกชนิด Polyethylene หนา 80 และ 160 ไมโครเมตร ที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นร้อยละ 3 5 และ 10 พบว่าผลมังคุดในถุงพลาสติกชนิด Polyethyleneหนา 80 ไมโครเมตร ที่บรรจุด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นร้อยละ 3 สามารถลดการสูญเสียน้ำหนัก การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการลดลงของก๊าซออกซิเจนในภาชนะบรรจุได้ดีกว่าผลมังคุดที่เก็บรักษาในสภาพบรรยากาศปกติ (ชุดควบคุม) ละมีอายุการเก็บรักษาได้นาน 28 วันซึ่งนานกว่าผลมังคุดที่เก็บรักษาในถุงพลาสติกชนิด Polyethylene(PE) หนา 160 ไมโครเมตร ที่เก็บรักษา 20 วัน การจุ่มกรดจิบเบอเรลลิค (GA3) ร่วมกับสารเคลือบผิวเมธิลเซลลูโลส พบว่าผลมังคุดที่จุ่มกรดจิบเบอเรลลิคความเข้มข้นร้อยละ 1 ร่วมกับเคลือบด้วยเมธิลเซลลูโลสความเข้มข้นร้อยละ 1 สามารถลดการสูญเสียน้ำหนัก และลดอัตราการหายใจและการผลิตเอทิลีนได้ดีกว่าผลมังคุดที่เคลือบด้วยเมธิลเซลลูโลสหรือกรดจิลเบอเรลลิคเพียงอย่างเดียวซึ่งแตกต่างจากผลมังคุดที่ไม่ได้จุ่มสารใดๆ (ชุดควบคุม) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่ความแน่นเนื้อของเปลือกผล สีเปลือกและสีกลีบเลี้ยงผลมังคุดไม่มีความแตกต่างจากผลมังคุดจากผลมังคุดที่ไม่จุ่มสารใดๆ  การจุ่มกรดจิบเบอเรลลิคเข้มข้น 1000 มิลลิกรัมต่อลิตร มีแนวโน้มชะลอการสูญเสียคลอโรฟิลล์ของกลีบเลี้ยงได้แต่ไม่มีความแตกต่างทางสถิติ ส่วนอิทธิพลร่วมระหว่างความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความหนาของถุงพลาสติกและการใช้สารเคลือบต่อการเก็บรักษาผลมังคุด พบว่าผลมังคุดในถุงพลาสติกชนิด Polyethylene หนา 80ไมโครเมตร ที่บรรจุด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นร้อยละ 3 ร่วมกับจุ่มกรดจิบเบอเรลลิคความเข้มข้น 1000 มิลลิกรัมต่อลิตรและเคลือบด้วยเมธิลเซลลูโลสความเข้มข้นร้อยละ 1 สามารถเก็บรักษาได้ไม่เกิน 32 วัน ในขณะที่ชุดควบคุมสามารถเก็บรักษาได้ 16 วัน ซึ่งสามารถลดความแน่นเนื้อของเปลือกผล กิจกรรมของเอนไซม์ฟินิลอะลานิลอะลาแอมโมเนียไลเอสและเปอร์ออกซิเดส ปริมาณลิกนิน การสูญเสียคลอโรฟิลล์ในกลีบเลี้ยงได้ดีกว่าผลมังคุดที่เก็บรักษาในสภาพบรรยากาศปกติ (ชุดควบคุม) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยสีเปลือกและสีกลีบเลี้ยงมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามระยะเวลาการเก็บรักษา ขณะที่ปริมาณน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตสและซูโครส การยอมรับทางประสาทสัมผัสมีค่าสูงกว่าผลมังคุดที่เก็บรักษาในสภาพบรรยากาศปกติ ๖ชุดควบคุม) และบรรจุด้วยก๊าซคราร์บอนไดออกไซด์หรือสารเคลือบเพียงอย่างเดียว