ผลของการเติมสารผสมระหว่างยูเรียและพอลิเอทิลีนไกลคอลที่มีต่อคุณภาพเมล็ดพอกข้าวโพดหวาน
วรากร ราชคมหนึ่งฤทัย บุญมาลา สิริมล ขันแก้วชมนาด สวาสดิ์มิตรสุชาดา เวียรศิลป์และสงวนศักดิ์ ธนาพรพูนพงษ์
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร 43 (3พิเศษ):649-652. 2555.
2555
บทคัดย่อ
การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมของสารผสมระหว่างยูเรียและพอลิเอทิลีนไกลคอล (PEG) ที่มีต่อคุณภาพเมล็ดพอกข้าวโพดหวาน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการงอกและไม่เป็นพิษต่อต้นอ่อน มีกรรมวิธีในการทดลอง คือ เมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้พอก เมล็ดพันธุ์ที่พอกโดยไม่เติมสาร เมล็ดพันธุ์ที่พอกโดยเติมสารผสมระหว่างยูเรียที่ระดับความเข้มข้น 0.2, 0.4, 0.6 และ 0.8 gN ร่วมกับ 3% PEG 6000 (w/w) ที่อุณหภูมิ 60 °ซ ของการเตรียมสาร ทำการทดสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์หลังการพอก โดยการทดสอบความงอกมาตรฐาน การวัดดัชนีการงอก การวัดอัตราการเจริญเติบโตของยอดและราก และการจำแนกความแข็งแรงของต้นกล้า พบว่าเมล็ดพันธุ์ที่พอกโดยเติมสารผสมระหว่างยูเรียที่ระดับความเข้มข้น 0.2และ 0.4 gN ร่วมกับ 3% PEG 6000 (w/w)มีดัชนีการงอกของเมล็ดพันธุ์สูงกว่าเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้พอกและเทียบเท่ากับเมล็ดพันธุ์ที่พอกโดยไม่เติมสาร โดยที่กรรมวิธีดังกล่าวมีเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดพันธุ์ อัตราการเจริญเติบโตของยอดและราก และสัดส่วนของต้นกล้าที่มีความแข็งแรงมากเทียบเท่ากับเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้พอกและเมล็ดพันธุ์ที่พอกโดยไม่เติมสาร ในขณะที่การพอกเมล็ดพันธุ์โดยเติมสารผสมระหว่างยูเรียที่ระดับความเข้มข้น 0.6 และ 0.8 gN ร่วมกับ 3% PEG 6000 (w/w)ทำให้คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ลดลง เนื่องจากความเข้มข้นของยูเรียที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความเป็นพิษกับเมล็ดพันธุ์ ดังนั้น ความเข้มข้นของสารผสมระหว่างยูเรียและ PEG ที่เหมาะสม คือ 0.2 และ 0.4 gN ร่วมกับ 3% PEG 6000 (w/w)