ผลของภาชนะบรรจุ และโซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ต่อการยืดอายุการเก็บรักษาและลดการเกิดสีน้ำตาลในลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย
จิตตา สาตร์เพ็ชร์ อนวัช สุวรรณกุล รุจิรา ดีวัฒนวงศ์ สุภาวดี ชนะพาล ปพิชญา กองจินดา มยุรา ล้านไชย เกศินี เสาวคนธ์ และวรพล บรรณจิต
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร 46 (3/1 พิเศษ): 287-290. 2558.
2558
บทคัดย่อ
ลิ้นจี่ (Litchi chinensis Sonn.) เป็นผลไม้กึ่งเขตร้อนที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น เนื่องจากสีเปลือกเกิดการเปลี่ยนแปลงสี อย่างรวดเร็วภายหลังการเก็บเกี่ยว การวิจัยครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยภายหลังการเก็บเกี่ยวที่มีผลต่ออายุการเก็บรักษา และการเกิดสีน้ำตาลในลิ้นจี่พันธ์ฮงฮวย การทดลองที่ 1 ทำการเปรียบเทียบผลลิ้นจี่ทำการ Precooling โดยแช่น้ำเย็นที่อุณหภูมิ 0-5ºC เป็นเวลา 20 นาที แล้วเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4ºC กับผลลิ้นจี่ที่ไม่ได้ทำการ Precooling เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25ºC พบว่าผลลิ้นจี่ที่ทำการ Precooling และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4ºC สามารถยืดอายุผลลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยได้นาน 6 วัน ส่วนผลลิ้นจี่ที่ไม่ได้ทำการ Precooling และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25ºC ผลลิ้นจี่มีอายุการเก็บรักษานาน 3 วัน จึงเข้าสู่การทดลองที่ 2 ทำการ Precooling ผลลิ้นจี่โดยแช่น้ำเย็นที่อุณหภูมิ 0-5ºC เป็นเวลา 20 นาที แล้วทำการเปรียบเทียบผลลิ้นจี่ที่ไม่ได้บรรจุในภาชนะบรรจุ (ชุดควบคุม) กับผลลิ้นจี่ที่บรรจุในภาชนะบรรจุต่างๆ ได้แก่ ถุง Active ถุงพลาสติก Polypropylene (PP เจาะรู 4 รู และ 8 รู) และถุง Active ร่วมกับโซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ความเข้มข้น 0.5 หรือ 1.0 กรัม /ลิ้นจี่ 1 กิโลกรัม จากนั้นทำการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4ºC ทำการบันทึกการสูญเสียน้ำหนักสด การเปลี่ยนแปลงสีเปลือก ปริมาณกรดที่ไทเทรตได้ ปริมาณของแข็งที่ละลายได้ในน้ำ การเกิดอาการสีน้ำตาล และปริมาณแอนโทไซยานิน ทำการบันทึกผลทุกๆ 3 วัน จนกระทั่งผลลิ้นจี่เกิดการเสื่อมสภาพและแสดงอาการ สีน้ำตาลมากกว่า 50% จากการทดลองพบว่าผลลิ้นจี่ที่บรรจุในถุง Active ร่วมกับโซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ที่ความเข้มข้น 1.0 กรัม/ลิ้นจี่ 1 กิโลกรัม สามารถลดการเกิดสีน้ำตาลที่ผิวเปลือก และยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน 15 วัน