บทคัดย่องานวิจัย

การศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเศรษฐกิจของสารเคมีในการแช่ฟอกปอ

มณเฑียร โสมภีร์ ทองปูน เพ่งหากิจ และ แฉล้ม มาศวรรณา

รายงานผลงานวิจัยปี 2536 (เล่ม 2) ปอ-ป่าน ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ขอนแก่น. 394 หน้า.

2539

บทคัดย่อ

การศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเศรษฐกิจของสารเคมีในการแช่ฟอกปอ

ทำการศึกาาความเป็นไปได้ในการใช้สารเคมีแช่ฟอกเพื่อสกัดเส้นใยปอแก้วพันธุ์ขอนแก่น 60

โดยต้มปอกลีบสดและกลีบแห้งที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส ในสารละลาย 1 ของแอมโมเนียม

ออกซาเลท แอมโนเนียมฟอสเฟต และแอมโมเนียมซัลเฟต สัดส่วนของปอกลีบสดต่อน้ำเท่ากับ

1:20 w/v และปอกลีบแห้งต่อน้ำเท่ากับ 1:50 พบว่า แอมโมเนียมออกซาเลทเป็นสารเคมีที่มี

ความเป็นไปได้ในการใช้สกัดเส้นใยปอกลีบสดและปอกลีบแห้ง ปอกลีบสดต้องการเวลาในการ

ต้มน้อยกว่าปอกลีบแห้ง (2 ชั่วโมง และ 2-5 ชั่วโมง/ตัวอย่าง ตามลำดับ) สารละลายแอมโมเนียม

ออกซาเลท 1 ตัวอย่าง สามารถสกัดเส้นใยปอกลีบสดได้มากครั้ง (8 ครั้ง) กว่าปอกลีบแห้ง

(4-7 ครั้ง) การสกัดเส้นใยปอกลีบแห้งด้วยสัดส่วนของปอต่อน้ำ 1:50 w/v ใช้เวลาต้มน้อยกว่า

สัดส่วนปอต่อน้ำ 1:20 w/v ถึงเท่าตัว สารละลายแอมโมเนียมฟอสเฟต 1  และแอมโมเนียมซัลเฟต

1  ไม่สามารถใช้สกัดเส้นใยปอกลีบสดได้ แม้จะต้มเป็นเวลานาน (5-13 ชั่วโมง) เส้นใยที่สกัด

ได้จากการต้มสารละลายแอมโมเนียมออกซาเลทมีสีฟางข้าว สะอาด แต่ค่อนข้างแข็งกระด้าง

เส้นใยที่สกัดจากปอกลีบแห้งสีจะคล้ำกว่าเล็กน้อย เมื่อนำเส้นใยบางตัวอย่างที่ต้มด้วย

สารแอมโมเนียมออกซาเลทไปวัดความเหนียว พบว่าเส้นใยจากการต้มกลีบสดเป็นเวลา

1 ชั่วโมง 5 นาที กับ 2 ชั่วโมง 45 นาที มีความเหนียวไม่ต่างกัน

(17.5 และ 17.1 กรัม/เท็กซ์ ตามลำดับ) เส้นใยปอกลีบแห้งมีความเหนียวลดลง

เมื่อให้สัดส่วนของปอต่อน้ำ 1:20 w/v  1:50 w/v (16.6 และ 15.9 กรัม/เท็กซ์)

เมื่อต้ม 2 ชั่วโมง 20 นาที และ 10 ชั่วโมง เทียบกับ 17.5 กรัม/เท็กซ์ เมื่อต้ม

2 ชั่วโมง 20 นาที ตามลำดับ สารละลายของสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ที่ใช้ต้มสกัดเส้นใยปอ

สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยให้แก่ข้าวโพดไร่ได้ดีพอสมควร อย่างไรก็ตามการใช้สารเคมีสกัด

เส้นใยปอมีความเป็นไปได้เฉพาะในระดับงานวิจัย เนื่องจากคุณภาพเส้นใยยังด้อยกว่าการ

แช่วิธีปกติและค่าใช้จ่ายยังสูงมากเมื่อเทียบกับราคาเส้นใยปอ