บทคัดย่องานวิจัย

การป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อรา Aspergillus flavus และสารแอฟลาทอกซินในข้าวโพดความชื้นสูงโดยการรมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ : ระยะเวลาการรมก๊าซที่เหมาะสม

วีรวัฒน์ นิลรัตนคุณ วันเพ็ญ ศรีทองชัย อาคม สุ่มมาตย์ เจริญศรี สร้อยทอง และอำนวย ทองดี

รายงานผลการวิจัยประจำปี 2540 เล่ม 1 (ข้าวโพด) ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ สถานีทดลองพืชไร่บ้านใหม่สำโรง สถานีทดลองพืชไร่พระพุทธบาท และสถานีทดลองพืชไร่เพชรบูรณ์ สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร. หน้า 322-334.

2540

บทคัดย่อ

การป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อรา Aspergillus flavus และสารแอฟลาทอกซินในข้าวโพดความชื้นสูงโดยการรมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ : ระยะเวลาการรมก๊าซที่เหมาะสม

การศึกษาระยะเวลาการเก็บรักษาที่เหมาะสม ในการใช้ก๊าซไนโตรเจนรมกองข้าวโพดความชื้นสูง

เพื่อป้องกันการเน่าเสียและการเกิดสารแอฟลาทอกซินในข้าวโพดเป็นการชั่วคราว โดยใช้ก๊าซ C02

อัตรา 0.5 กก./เมล็ด 1 ต้น รมกองข้าวโพดที่มีความชื้นโดยเฉลี่ย 25.1 % หลังจากกะเทาะมาแล้ว 1 วัน

เป็นระยะเวลา 5,10 และ 15 วัน เปรียบเทียบกับกองข้าวโพดที่เก็บในสภาพบรรยากาศปกติ ผลการทดลอง

พบว่าสามารถเก็บข้าวโพดโดยการรมก๊าซ C02 ได้นานถึง 15 วัน โดยไม่พบการเจริญของเชื้อรา A. flavus

ด้วยตาเปล่า อุณหภูมิภายในกองคงที่ (31 องศาเซลเซียส) แมล็ดยังเลื่อนไหลเป็นปกติ แต่จะนิ่ม สีซีด และมี

กลิ่นเปรี้ยวมากขึ้นตามระยะเวลาการเก็บรักษาส่วนกองข้าวโพดในสภาพบรรยากาศปกติ พบเชื้อราชนิดต่าง

ๆ เข้าทำลายทั้งกองและมีปริมาณมากขึ้นตามระยะเวลาการเก็บรักษา อุณหภูมิภายในกองเพิ่มสูงขึ้นถึง 60

องศาเซลเซียส เมล็ดจับตัวเป็นก้อนและมีกลิ่นเหม็นหืน ในส่วนของการเกิดสารแอฟลาทอกซินในปี 2538

พบการปนเปื้อนในปริมาณสูงทั้งในกองข้าวโพดที่รมก๊าซ (39-173 ppb) และในสภาพบรรยากาศปกติ

(27-138 ppb) เนื่องจากข้าวโพดที่นำมาทดลองมีการปนเปื้อนมาก่อนแล้วถึง 107 PPB ส่วนปี 2539

พบการปนเปื้อนในกองที่รมก๊าซเพียง 0-13 ppb แต่แบในกองในสภาพบรรยากาศปกติถึง 54-206 ppb