การห่อผลลิ้นจี่เพื่อลดปริมาณโรคภายหลังการเก็บเกี่ยว
สุรชาติ คูอาริยะกุล และ วิชชา สอาดสุด
รายงานผลงานวิจัย ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, เชียงราย.
2540
บทคัดย่อ
ได้ทำการห่อผลลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยภายหลัง 45 วัน จากวันที่ดอกในช่อบาน 75% มี 5 กรรมวิธี ได้แก่ 1)
ถุงพลาสติกใสชนิด polyetrhylene (PE) 2) ถุงพลาสติกใสชนิด polypropylene (PP) 3)
ถุงรีเมย์ (Tyvek) 4) ถุงกระดาษหนังสือพิมพ์ และ 5) การไม่ห่อผล (control) เมื่อผลลิ้นจี่สุก (อายุ
107 วันภายหลังวันที่ดอกในช่อบาน 75% ได้เก็บเกี่ยวแล้วนำมาลดอุณหภูมิ (pre-cooled) บรรจุใน
ถาดโฟมและหุ้มด้วยพลาสติก PVC แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 5-6 C และ 22-25 C ปรากฏว่า
การห่อผลลิ้นจี่ทุกกรรมวิธีที่เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 22-25 C ระดับอาการเปลือกผลสีน้ำตาลและผลเน่าที่
รุนแรงภายหลังการเก็บรักษาไว้เป็นเวลา 5 วัน และพบเชื้อรา จำนวน 14 สกุลที่เจริญเติบโตบนเนื้อเยื่อเปลือก
ผลลิ้นจี่ เชื้อราที่พบเป็นจำนวนมาก ได้แก่ Trichothecium, Fusarium และ Aspergillus การเก็บรักษา
ไว้ที่อุณหภูมิ 5-6 C มีระดับการเกิดโรคเก็บน้อยกว่าแม้ว่ามีการเก็บรักษาไว้เป็นเวลา 25 วัน พบเชื้อราจำนวน
32 สกุลที่แยกได้จากเนื้อเยื่อเปลือกผลผลิ้นจี่ที่เก็บรักษาไว้อุณหภูมิดังกล่าว เชื้อราที่พบเป็นจำนวนมาก ๆ ได้แก่
เชื้อรา Cladosporium, Phoma, Fusarium และ Nigrospora การทดสอบความสามารถใน
การทำให้เกิดโรคของเชื้อราจำนวน 10 สกุลกับผลลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยกิมเจ็ง และจักรพรรดิ์ พบว่าเชื้อรา
Botryodiplodia, Colletotrichum, Glomerella, Myccosphaerella, Phoma
Phomopsis และ Trichothecium ทำให้ผลลิ้นจี่เป็นโรคผลเน่าได้ การห่อผลลิ้นจี่ด้วยวัสดุ 4 ชนิด
ดังกล่าวสามารถลดปริมาณเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคภายหลังการเก็บเกี่ยวได้ และถุงรีเมย์เป็นวัสดุห่อผล
ที่ดีกว่าวัสดุชนิดอื่น