หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
ปลูกมะละกอพันธุ์ครั่ง 2 ไร่ เก็บผลผลิตได้ 5 ตันภายใน 4 เดือน
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 51
ปลูกมะละกอพันธุ์ครั่ง 2 ไร่ เก็บผลผลิตได้ 5 ตันภายใน 4 เดือน
มะละกอพันธุ์ครั่งจัดเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการทำส้มตำโดยเฉพาะ เนื่องจากมีลักษณะเด่นคือ เนื้อมีความกรอบ มีสีขาวขุ่น รสชาติหวานเล็กน้อยและไม่แข็งกระด้าง ในด้านการผลิตจัดเป็นมะละกอที่คงสภาพอยู่ได้นานโดยไม่เหี่ยวและคุณภาพเนื้อไม่เปลี่ยนนานถึง 7 วัน มีความทนทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได้ดีพอสมควร ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะละกอพันธุ์นี้สีของต้นจะมีจุดประสีแดงอมม่วงตามต้นหรือสีเหมือนครั่ง ในระยะต้นอ่อนก้านใบจะมีสีม่วงและสีของก้านจะจางลงเมื่อต้นมีอายุมากขึ้น ที่สำคัญจัดเป็นสายพันธุ์มะละกอที่ให้ผลผลิตเร็วปลูกไปเพียง 4-5 เดือนเท่านั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ และมีตัวอย่างเกษตรกรคือ คุณยุพิน บั้งทอง บ้านเลขที่ 91 หมู่ 11 บ้านร่องกอด ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 67110 ปลูกมะละกอพันธุ์ครั่งในพื้นที่เพียง 2 ไร่ อายุต้นเพียง 4-5 เดือน เก็บผลผลิตขายไปแล้วถึง 5,000 กิโลกรัม (5 ตัน)
ก่อนหน้านี้คุณยุพินมีอาชีพในการปลูกผัก เช่น กะหล่ำดอกและถั่วฝักยาวมาก่อน ประสบปัญหาขายผลผลิตได้ราคาต่ำไม่คุ้มกับการลงทุน จึงได้เปลี่ยนพื้นที่ 2 ไร่ มาปลูกมะละกอพันธุ์ครั่ง โดยซื้อเมล็ดพันธุ์ในราคาเมล็ดละ 1 บาท และเตรียมแปลงปลูกโดยใช้ระยะปลูก 3x3 เมตร มีการเตรียมแปลงปลูกแบบยกลูกฟูกเพื่อให้มีการระบายน้ำที่ดีและปลูกแบบแถวเดี่ยว จากการเดินดูในแปลงปลูกจัดได้ว่าค่อนข้างสะอาด โคนต้นมะละกอจะคลุมด้วยฟางข้าวเพื่อลดปัญหาวัชพืช (ไม่มีการใช้ยาฆ่าหญ้า) คุณยุพินบอกว่าในการปลูก มะละกอพันธุ์ครั่ง “น้ำ” เป็นหัวใจสำคัญมากจะต้องให้อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มปลูก ปุ๋ยเคมีจะให้สูตร 13-13-21 เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ต้นละ 1 กำมือ ในแต่ละหลุมปลูกจะมีมะละกอเพียงต้นเดียว เพื่อที่จะได้ต้นมะละกอที่อวบอ้วน ผลจะใหญ่และสมบูรณ์
คุณยุพินบอกว่าหลังจากที่มะละกอครั่งเริ่มออกดอกนับไปอีก 30-45 วัน เก็บผลผลิตขายดิบได้แล้ว และเป็นที่สังเกตว่าขายได้ทั้งลูกกลมและลูกยาว เนื่องจากผลที่เป็นลูกกลมจะมีความยาวของผลประมาณ 30 เซนติเมตร ทุกวันนี้คุณยุพินมีรายได้จากการเก็บมะละกอครั่งขายได้ทุกวัน วันละ 60-70 ถุง (บรรจุถุงละ 10 กิโลกรัม) จะเก็บตามออร์เดอร์ที่แม่ค้าสั่งมาและเลือกเก็บผลใหญ่ออกจากต้นก่อนขายในตลาด อ.หล่มสัก ผู้บริโภคนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีความกรอบและอร่อยกว่ามะละกอสายพันธุ์อื่น ๆ ในช่วงที่มะละกอออกสู่ตลาดมากจะขายได้ราคากิโลกรัมละ 5 บาท และราคามะละกอดิบจะแพงที่สุดคือช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม จะขายผลผลิตได้เฉลี่ยถึงกิโลกรัม 8-10 บาท ในพื้นที่ 2 ไร่ ของการปลูกมะละกอพันธุ์ครั่งประมาณ 350 ต้นของคุณยุพิน เก็บมะละกอดิบส่งขายตลาดไปแล้ว 5,000 กิโลกรัม อายุต้นเพียง 4-5 เดือนเท่านั้น จากการสอบถามถึงปัญหาการระบาดของโรคไวรัสจุดวงแหวนพบว่ามีเพียง 5 ต้นเท่านั้น เมื่อพบได้ทำการเผาทิ้งทันที
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154958&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น