เปิดตำนาน 'ข้าวนพรงค์' เมนูแป้งเพื่อสุขภาพ
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 51
เปิดตำนาน 'ข้าวนพรงค์' เมนูแป้งเพื่อสุขภาพ
"ข้าว" เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่มีศักยภาพการผลิตและส่งออกสูง แต่ละปีสามารถนำรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล โดยปี 2549 ไทยมีการส่งออกสินค้าข้าวทั้งสิ้น 7,494,140 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 98,179.03 ล้านบาท และปีที่ผ่านมา มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นรวม 9,197,656 ตัน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 119,304.13 ล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ จีน มาเลเซีย อิรัก อิหร่าน สาธารณรัฐเบนิน แอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่คุณภาพข้าวไทยได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ทั้ง ข้าวหอมมะลิ105 และ ข้าวหอมปทุมธานี กลับมีข้าวพื้นเมืองอีกหลายสายพันธุ์ที่นับวันยิ่งใกล้สูญพันธุ์ไปจากผืนแผ่นดินไทย อาทิ ข้าวหอมศรีโสธร ข้าวหอมนิล และ ข้าวเหนียวกัญญา เป็นต้น เครือข่ายปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงได้มีแนวคิดสืบสานและอนุรักษ์ข้าวพื้นเมืองไทย พร้อมกับสร้างตำนาน “ข้าวนพรงค์” บนผืนดินพระราชทาน เพื่อทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในปี 2551 นี้
นายขวัญชัย รักษาพันธุ์ ประธานปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวว่า ส.ป.ก.ร่วมกับตัวแทนชาวนาที่ทำกินบนผืนดินพระราชทานใน 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครนายก นครปฐม พร้อมเครือข่ายปราชญ์ชาวนา มูลนิธิเกษตรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัท เกษตรสนองแผ่นดิน จำกัด บริษัท ไทเฮา จำกัด (มหาชน) และหอการค้าของ 5 จังหวัดดังกล่าว ได้มีโครงการส่งเสริมและพัฒนาการปลูกข้าว 9 พันธุ์ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ105 ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล ข้าวเหนียวกัญญา ข้าวเหนียว กข6 ข้าวหอมศรีโสธร ข้าวสุพรรณบุรี1 ข้าวปทุมธานี1 และ ข้าวหอมทองคำ บนแปลงนาซึ่งเป็นผืนดินพระราชทาน เนื้อที่ 1 ไร่ ในต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตและนำทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การปลูกข้าวทั้ง 9 พันธุ์ ปลูกแบบแยกแต่ละพันธุ์ชัดเจน ไม่ปนกัน ถือเป็นแปลงต้นแบบในการยกระดับการผลิตข้าวโดยไม่ใช้สารเคมี เป็นข้าวปลอดสารพิษที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อเพิ่มมูลค่าการบริโภคและการส่งออกด้วย โดยได้มีการทำขวัญข้าว ทำบุญลาน พร้อมทำบุญข้าว หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน 81 รูปด้วย จึงถือเป็นข้าวศักดิ์สิทธิ์ในที่ดินพระราชทาน
จากนั้นได้นำข้าวทั้ง 9 พันธุ์เข้าสีในโรงสี แล้วนำข้าวสาร 9 สี มาผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม เรียกว่า “ข้าวนพรงค์” ซึ่งมีคุณค่าทั้งทางอาหารและคุณค่าทางยา โดยข้าวหอมมะลิจะมีแร่ธาตุกำมะถันสูง ช่วยบำรุงสมอง ข้าวหอมมะลิแดงมีแร่ธาตุและใยอาหารสูง ช่วยบำรุงเลือด ต้านเบาหวาน ชะลอความแก่และแก้เหน็บชา ข้าวหอมทองคำเป็นแหล่งรวมวิตามินและมีเส้นใยสูง ย่อยง่าย ข้าวหอมนิลมีแร่ธาตุสูงมาก ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็ง ขยายหลอดเลือด รักษาโรคข้ออักเสบ ข้าวหอมศรีโสธรจะอุดมด้วยแร่ธาตุ และมีธาตุเหล็กสูง
ข้าวเหนียวกัญญามีธาตุเหล็กสูงและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด และต้านโลหิตจาง ข้าวเหนียว กข 6 อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคกระเพาะและต้านมะเร็ง นิยมใช้ทำยา ข้าวปทุมธานี 1 มีสารบำรุงเซลล์ประสาทมาก ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และแก้เหน็บชา ข้าวสุพรรณบุรี 1 เป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดี มีวิตามินอีสูง พร้อมธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงโลหิต ซึ่งทางโครงการฯได้ทูลเกล้าฯถวายข้าวนพรงค์ขึ้นโต๊ะเสวยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แล้ว
ปัจจุบันได้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวนพรงค์ไว้ประมาณ 5-10 ตัน เพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกร โดยปีนี้ได้มีแผนเร่งสร้างเครือข่ายผู้ผลิตเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 100 ราย บนผืนดินพระราชทาน พร้อมขยายฐานการผลิตข้าวนพรงค์ที่ปลอดสารพิษเพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสบริโภคข้าวที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการฟื้นฟูพันธุ์ข้าวหายากในเมืองไทยด้วย โดยเฉพาะ ข้าวหอมศรีโสธรหรือ “ข้าวหอมนครชัยศรี” ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวท้องถิ่นของ จ.นครปฐม มีลักษณะเด่น คือ มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวหอมมะลิ ให้ผลผลิตสูง เมล็ดยาว ข้าวสวย และขายได้ราคาแพงกว่าข้าวหอมมะลิ เกวียนละกว่า 300 บาท อนาคตจะช่วยขยายโอกาสในการขายข้าวที่หลากหลายและได้ราคาดียิ่งขึ้นของชาวนาไทย
ทางด้าน นายเดชา วิลาวรรณ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้มีแผนขยายพื้นที่ปลูกข้าวนพรงค์เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 2,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ส.ป.ก. ฉะเชิงเทราได้หารือกับหอการค้าจังหวัดเพื่อขยาย ช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะข้าวที่มีศักยภาพในการผลิตและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เช่น ข้าวสารหอมนิลมีราคาสูงถึง 57 บาท/กิโลกรัม อนาคตในร้านอาหารน่าจะมีการนำเมนูข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีคุณค่าทางยา มาให้ผู้บริโภคได้เลือกบริโภค ซึ่งเมนูข้าวนี้มีความเป็นไปได้สูง และร้านอาหารหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากสนใจเกี่ยวกับ “ข้าวนพรงค์” สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 0-3851-1500
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=53408&NewsType=2&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น