สูตรสำเร็จการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออก

สูตรสำเร็จการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออก

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 51

คุณมานพ แก้ววงษ์นุกูล ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา บ้านเลขที่ 56 หมู่ 3 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเกษตรกรผู้นำและบุกเบิกในการปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออกของไทยรายหนึ่งที่ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ได้คุณภาพและมาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับจากตลาดต่างประเทศ คุณมานพบอกว่าในปัจจุบันนี้เกษตรกรที่คิดจะปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก ควรจะปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เนื่องจากความต้องการตลาดต่างประเทศมีสูงมาก ตลาดไม่ได้จำกัดอยู่ที่ญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียว มีอีกหลายประเทศที่มีออร์เดอร์สั่งซื้อเข้ามา อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศในยุโรป

ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ทำสวนมะม่วงมักจะไม่กล้าลงทุน เมื่อเกิดปัญหาการขาดทุนจะเกิดสภาวะ “กล้า ๆ กลัว ๆ” ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ ผลตามมาเกษตรกรจะขาดการบำรุงรักษา มีการใส่ปุ๋ยและฉีดพ่นยาไม่เต็มที่ ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของต้นมะม่วงโดยตรง คุณมานพย้ำว่าในการผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออกจะต้องมีการลงทุนดูแลต้นมะม่วงให้สมบูรณ์ เริ่มจากปุ๋ยคอกจะต้องมีการใส่เป็นประจำทุกปี จะใส่ช่วงต้นฤดูฝนหรือใส่หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จก็ได้ เนื่องจากปุ๋ยคอกเป็นพื้นฐานของความสมบูรณ์ของต้นมะม่วง จุดสำคัญของการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองคือเรื่องผิวของ ผลจะต้องปราศจากร่องรอยการทำลายจากโรคและแมลง ดังนั้นในระยะดอกมะม่วงโรยจะต้องเฝ้าระวังการระบาดทำลายของเพลี้ยไฟซึ่งนับเป็นแมลงศัตรูที่มีความสำคัญที่สุดเมื่อถึงระยะดอกมะม่วงโรยแนะนำให้ฉีดพ่นสารโปรวาโด อัตรา 2-3 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้ามีการระบาดที่รุนแรงให้ผสมสารโฟลิเทค ร่วมกับสารโปรวาโดจะป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการตัดแต่งผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองก่อนที่จะทำการห่อผลเป็นเรื่องใหม่ของชาวสวนมะม่วงไทยที่จะต้องให้ความสำคัญ ปัจจุบันพ่อค้าส่งออกจะเลือกซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกที่มีการห่อผลด้วยถุงคาร์บอนเป็นลำดับแรกเท่านั้น มะม่วงที่ห่อผลด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์จะไม่รับซื้อ คุณมานพยังได้บอกถึงข้อควรระวังปลีกย่อยในการห่อผลมะม่วงที่เกษตรกรส่วนใหญ่มองข้ามคือ การเด็ดหรือตัดส่วนปลายก้านช่อดอกที่ชาวสวนเรียกว่า “หนวดมะม่วง” ถ้าปล่อยทิ้งไว้ส่วนของหนวดจะทำให้ผิวมะม่วงเกิดตำหนิจากการเสียดสีภายในถุงห่อ มะม่วงจะตกเกรดทันที

ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่มีความสำคัญยิ่ง เจ้าของสวนมะม่วงจะต้องฝึกฝนคนงานและปลูกฝังเรื่องของความประณีตในการเก็บเกี่ยว เพียงแรงกระแทกหรือช้ำเพียงจุดเดียวถือว่าตกเกรดทันที ปี พ.ศ. 2551 นับเป็นปีทองของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกษตรกรสามารถขายน้ำดอกไม้สีทองได้ราคากิโลกรัมละ 50 บาท ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2551 เป็นต้นมา.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 มีนาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=53750&NewsType=2&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551

ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว

กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา

ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี

เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง

ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ

"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น