หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
มะม่วงอัลฟองโซและทับทิมผลไม้เด่นของประเทศอินเดีย
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 51
มะม่วงอัลฟองโซและทับทิมผลไม้เด่นของประเทศอินเดีย
ในอนาคตประเทศอินเดียจะเป็นหนึ่งใน 4 ประเทศยักษ์ใหญ่ (สาธารณรัฐประชาชน จีน รัสเซียและบราซิล) ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง ผู้เขียนได้มีโอกาสไปดูงานที่ประเทศอินเดียเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ายังมีคนจนอยู่มากถนนหนทางยังไม่สะดวกเหมือนบ้านเราก็ตาม แต่ได้มีการปรับปรุงสนามบินอินธิรา คานธี ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติอยู่ที่นิวเดลีเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ คนไทยเริ่มไปท่องเที่ยวในอินเดียมากขึ้นโดยเฉพาะการไปแสวงบุญไหว้พระ นอกจากนั้นที่อินเดียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกคือ ทัชมาฮาลและที่หลายคนยังไม่ทราบว่าที่แคว้นแคชเมียร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติคือ กุลมาร์ค จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ระดับความสูง 2,730 เมตรจากระดับน้ำทะเลซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงฤดูร้อนกุลมาร์คจะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก
การค้าขายผลไม้ในประเทศอินเดียส่วนใหญ่จะผลิตได้เองภายในประเทศและมีชนิดใกล้เคียงกับบ้านเราคือ ส้ม, องุ่น, กล้วย ฯลฯ และที่มีราคาแพงก็คือ ทับทิม และมะม่วงพันธุ์อัลฟองโซ คนไทยรู้จัก ทับทิมอินเดีย มากขึ้นเพราะเป็นทับทิมเมล็ด นิ่มมีคุณภาพใกล้เคียงกับทับทิมจากจีนจะด้อยกว่าก็เพียงทับทิม สเปน มีเกษตรกรไทยนำสายพันธุ์ทับทิมมาจากประเทศอินเดียมาปลูกในประเทศไทยโดยมีการตั้งชื่อให้มีความแตกต่างกันออกไป อาทิ พันธุ์เด่นตะวัน, พันธุ์แดงเจ้าพระยา ฯลฯ โดยเจ้าของมักจะอ้างว่านำกิ่งตอนมาจากประเทศอินเดีย ปัจจุบันเริ่มมีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นอีก 1-2 ปีคงจะทราบผลว่าได้ผลผลิตเหมือนกับที่ปลูกในอินเดียหรือไม่ แต่ที่อินเดียลักษณะ ของทับทิมที่ผู้เขียนได้บริโภคจะมีลักษณะเมล็ดนิ่ม เนื้อมีสีแดงเข้ม เป็นผลไม้สำหรับคนอินเดีย ที่มีฐานะดีขายถึงผู้บริโภคเฉลี่ยกิโลกรัมละ 50-80 บาท ในขณะที่มะม่วงอินเดียจัดเป็นแหล่งกำเนิดของมะม่วงหลายสายพันธุ์และ คนไทยมักจะเข้าใจเอาว่ามะม่วงอินเดียจะมีกลิ่นเหม็นขี้ไต้ แต่ ในความเป็นจริงอินเดียได้มีการพัฒนาสายพันธุ์มะม่วงได้มะม่วงพันธุ์ดี เช่น พันธุ์อัลฟองโซ ซึ่งจัดเป็นมะม่วงที่ปลูกมากที่เมืองบอมเบย์และจัดเป็นมะม่วงที่มีราคาแพงที่สุดและแพงกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ ราคาขายถึงผู้บริโภคตกกิโลกรัมละ 100-150 บาท ลักษณะของผลคล้ายกับมะม่วงอกร่องบ้านเราแต่มีขนาดผลใหญ่กว่า เมื่อผลสุกมีผิวสีเหลืองคล้ายกับพันธุ์โชคอนันต์ มีรสชาติไม่หวานจัดเหมือนกับพันธุ์อาร์ทูอีทู คาดว่าจะมีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากในประเทศอินเดียและจัดเป็นมะม่วงที่มีเปลือกหนาอาจจะเป็นสายพันธุ์ส่งออกในอนาคต
ปัจจุบันประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศอินเดีย การขยายตลาดผลไม้ไทยไปขายยังอินเดียมีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะตลาดของคนอินเดียที่มีรายได้สูง.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 31 มีนาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=159162&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น