"ไทย-เปรู"แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ผลิตเส้นใยหม่อนไหมตีส่งออก
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 51
ทั้งนี้หากนักวิชาการไทยมีโอกาสศึกษาเรื่องเหล่านี้ จะสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในโครงการตามพระราชดำริที่ จ.แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ในโครงการเลี้ยงแกะจากออสเตรเลียของกรมปศุสัตว์ เพื่อผลิตเส้นใยขนสัตว์ และการทอผสมกับเส้นใยชนิดอื่น ซึ่งหากความร่วมมือข้างต้นเกิดสัมฤทธิ์ผล คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรไทยและเพิ่มมูลค่าการส่งออกผ้าไหม ผลิตภัณฑ์ไหมและเคหะสิ่งทอ จากเดิมปีละประมาณ 1,700 ล้านบาท ให้เพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบันปริมาณการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยและเปรู ยังมีปริมาณไม่มากนัก โดยในปี 2550 ที่ผ่านมา มีการส่งสินค้าเกษตรจากไทยไปเปรู เพียง 5 รายการคือ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าวโพด ผัดสดแช่แข็งแช่เย็น รวมมูลค่า 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เชื่อมั่นว่าในอนาคตเมื่อมีการจัดทำ FTA ระหว่างสองประเทศแล้ว จะช่วยให้การค้าการลงทุนระหว่างกันสูงขึ้น โดยเฉพาะไทยจะสามารถขยายการส่งออกสินค้าในกลุ่มข้างต้นได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งอาศัยซึ่งกันและกันเป็นประตูการค้าไป สู่ภูมิภาคของตน เนื่องจากเปรูมีความสนใจที่จะทำการค้ากับประเทศในเอเซียนมากขึ้น และไทยจะมีช่องทางขยายตลาดในภูมิภาคละตินอเมริกาได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 28 เมษายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=106299
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
