เมื่อวันที่ 10 มกราคม 51
นางยาเอล รูบินสไตน์ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เดินทางไปยังศูนย์เรียนรู้โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง จ.เพชรบุรี เมื่อวันก่อนเพื่อเยี่ยมชม โครงการในความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลอิสราเอล เพื่อช่วยเหลือด้านการพัฒนาเกษตรกรในรูปของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ภายใต้ชื่อโครงการ “ไทย-อิสราเอลเพื่อพัฒนาชนบท”
และเนื่องในโอกาส เฉลิมฉลอง 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางรัฐบาลอิสราเอลได้ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลอง 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย โดยได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่ศูนย์เรียนรู้โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง 2 โครงการ คือ โครงการการส่งเสริมการเลี้ยงโคนม โดยจะมอบแม่พันธุ์จากอิสราเอล จำนวน 100 ตัว ให้แก่เกษตรกรในหมู่บ้านหุบกะพง พร้อมผู้เชี่ยวชาญ มาให้ความรู้ตั้งแต่การบำรุงรักษา และการแปรรูปนม โดยทางรัฐบาลอิสราเอลจะติดต่อกับรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตรง
โครงการที่ 2 คือโครงการมอบพันธุ์ทับทิมซึ่งเป็นผลไม้ของอิสราเอลที่มีรสหวาน กรอบ เมล็ดเล็กเนื้อในมีสีแดงสด น้ำหนักลูก ละ 800-1,000 กรัม ราคาที่ประเทศอิสราเอลกิโลกรัมละ 80-160 บาท จะนำมาปลูกในพื้นที่หุบกะพง จำนวน 120 ต้น โดยให้ทางศูนย์ฯ จัดแปลงให้อย่างน้อย 500 ตารางเมตร พร้อมยกร่องเตรียมปลูก
ทั้งสองโครงการที่ทางรัฐบาลอิสราเอล เสนอความช่วยเหลือมานั้น นับเป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง จ.เพชรบุรี มีอาชีพเสริมและรายได้เพิ่ม ทั้งนี้ในส่วนของไทยจะมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เป็นส่วนรับผิดชอบด้านการดำเนินการและประสานงานให้โครงการฯ สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับทับทิมอิสราเอลนั้น นักวิทยาศาสตร์ในอิสราเอลบันทึกไว้ว่า หากดื่มน้ำทับทิมวันละแก้วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด ด้วยน้ำทับทิมมีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำผลไม้ชนิดอื่น
ทับทิมมีการเพาะปลูกตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีถิ่นกำเนิดในเปอร์เซียแล้วกระจายจากสเปนไปจนถึงแคลิฟอร์เนีย ในอาเซอร์ไบจาน ซอสทับทิม ที่เรียกว่า Narsharab ถูกเสิร์ฟพร้อมกับปลาสเทอจินสอดไส้ ในจอร์เจียใช้เมล็ดทับทิมเป็นส่วนประกอบในสลัดหรืออาหารที่เป็นเนื้อ ในอิหร่าน อาหารที่ชื่อว่า Ferenjan ประกอบด้วยน้ำทับทิมเข้มข้น
สำหรับทับทิมอิสราเอลที่ปลูกในพื้นที่ของโครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ทางโครงการจะขยายพันธุ์เพื่อขยายผลให้กับเกษตรกรในพื้นที่นำไปปลูกเชิงพาณิชย์ต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 มกราคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=51236&NewsType=2&Template=1