ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหล ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสมบูรณ์จากต้นไม้
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 51
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหล ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรสมบูรณ์จากต้นไม้
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหล ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นจุดเรียนรู้ศึกษาดูงาน และเปิดอบรมให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่สนใจศึกษาในเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจสำคัญ ภายใต้แนวคิดของ "คำนึง ชนะสิทธิ์" ประธานศูนย์ฯ ที่บอกว่า "เกษตรอินทรีย์ทำได้จริง ดีจริง ต้องลองทำด้วยความตั้งใจ หลังผ่านการอบรมเกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที"
นายคำนึง ชนะสิทธิ์ ที่ปรึกษาหมอดินอาสาประจำจังหวัดจันทบุรี เกษตรกรวัย 62 ปี ที่มีอดีตไม่ต่างจากเกษตรกรรายอื่นๆในจังหวัดจันทบุรีที่นิยมปลูกพืชชนิดเดียว ตามความต้องการของตลาด ต้องแข่งขันกันปลูกเร่งให้ได้ผลผลิตสูงโดยการใช้สารเคมีเหมือนกัน ทำให้เกิดโรคพืชมากขึ้น และเมื่อผลผลิตมีมากเกินความต้องการ ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำก็ตามมา ผลที่ได้รับคือขาดทุน
จนกระทั่งในปี 2538 ได้ปรึกษากับสถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี ให้นำดินไปตรวจวิเคราะห์จึงรู้ว่าจากการใช้สารเคมีติดต่อกันเป็นระยะเวลานานทำให้ดินเป็นกรดจัด ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 4.5 ซึ่งในทางวิชาการหากค่าความเป็นกรดเป็นด่างต่ำกว่า 5.5 คือระดับความเป็นกรดที่มีปัญหาต่อการเพาะปลูกพืช และก่อให้เกิดการระบาดของเชื้อโรคพืช โดยเฉพาะเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่า เป็นต้น
จากนั้น ลุงคำนึง จึงเข้ารับการอบรมจากสถานีพัฒนาที่ดินในเรื่องการปรับโครงสร้างดินที่เป็นกรด โดนใช้วัสดุปูนทางการเกษตร ได้แก่ ปูนโดโลไมต์ ใช้ในอัตราทั่วๆ ไป ประมาณ 100-300 กก./ไร่ และเริ่มใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปรับปรุงบำรุงดินแทนปุ๋ยเคมี ปลูกพืชคลุมดินเป็นพืชสมุนไพรผสมผสานกันหลายชนิดในสวนไม้ผลผสมผสานที่มีทั้ง ทุเรียน ลองกอง เงาะ มังคุด นำดินไปตรวจค่าพีเอชเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 4.5 ขึ้นไปจนถึง 6.8 ผลผลิตไม้ผลดีขึ้น ไม่เกิดโรครากเน่า โคนเน่า
สำหรับสมุนไพรในสวนแห่งนี้ ลุงคำนึง คิดปลูกเพื่อเป็นการอนุรักษ์แต่กลายเป็นรายได้ให้ทุกสัปดาห์สามารถขายได้ตลอดทั้งปี ส่วนไม้ผลที่ปลูกเป็นหลักปีหนึ่งขายได้เพียงครั้งเดียวและสังเกตได้ว่าจากการปลูกพืชผสมผสานทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดี เนื่องจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามธรรมชาติเกิดเป็นสังคมพืช สมุนไพรหลากหลายชนิดใต้โคนต้นผลไม้ มีทั้งกระวาน หน่อแดง ว่านสาวหลง ขมิ้นชัน ขมิ้นอ้อย เตยหอม ตะไคร้หอม ชะพลู และอีกหลายสิบชนิดช่วยคลุมดินให้ชุ่มชื้น ปรับโครงสร้างดิน ควบคุมค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ทำให้สิ่งมีชีวิตในดินและแมลงที่เป็นประโยชน์กลับคืนมา ป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
นอกจากนี้ กลิ่นของสมุนไพรสามารถขับไล่แมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย เป็นปุ๋ยชั้นดีที่ คำนึง ชนะสิทธิ์ บอกว่า "ที่นี่ไม่มีปุ๋ยสูตร 15-15-15 เหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นปุ๋ยอินทรีย์สูตรสมบูรณ์จากสังคมพืช ช่วยให้ต้นไม้แข็งแรง ไม่เกิดโรค ไม่มีแมลงรบกวน ได้ผลผลิตที่ยาวนาน"
สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ในสวนแห่งนี้ จะใช้ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากสารเร่งพด.1 โดยใส่ต้นละ 40 กก./ปี ในช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต 10-15 วัน และปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่งพด.2 ผสมกับน้ำในอัตรา 1:500 ให้ไปทางระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ในสวนสมุนไพรทุกๆ 7 วัน
เกษตรกรสนใจเข้าอบรมที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติชำปลาไหลติดต่อ นายคำนึง ชนะสิทธิ์ โทร.08-9092-9596 โดยการอบรมจะสอนหลักแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเน้นการปฏิบัติจริง เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ การผลิตปุ๋ยหมัก น้ำส้มควันไม้ สารสมุนไพรขับไล่แมลง การปลูกพืชผสมผสาน เป็นต้น สำหรับสารเร่งพด. ของกรมพัฒนาที่ดินสามารถติดต่อได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือที่ฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน โทร.02-579-8515
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 5 มิถุนายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=110730
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น