เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 51
มูลนิธิชัยพัฒนาได้สนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มีพระราชกระแสให้นำที่ดินที่ว่างเปล่าและยังไม่มีการดำเนินงานใด ๆ มาทดลอง ปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (Hydroponics) และขยายผลไปสู่ราษฎร เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้ประโยชน์จากที่ดินโดยมีแผนงานที่จะดำเนินโครงการในที่ดินของมูลนิธิฯ ที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่ก่อนที่จะเริ่มทำโครงการที่ปราจีนบุรี ทางสำนักงานมูลนิธิฯ ได้ไปเริ่มที่โรงเรียนบ้านเกาะยะระ โตดนุ้ย ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เป็นแห่งแรก
โรงเรียนบ้านเกาะยะระโตดนุ้ยเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ มีนักเรียนอยู่ 36 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึง ป.6 บนเกาะมีประชากรประมาณ 50-60 ครัวเรือน ที่เกาะแห่งนี้ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนับสนุนงบประมาณที่บริษัท เอไอเอ จำกัด (มหาชน) ทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อใช้ในการปรับปรุงก่อสร้างห้องสมุดที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิ และได้พบว่า โรงเรียนมีพื้นที่จำกัดมากจึงไม่สามารถปลูกผักเป็นอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนได้ จึงคิดกันว่า ระบบการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโรงเรียนแห่งนี้
สำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการตามโครงการประกอบด้วยไม้โกงกาง ขนาด 3-4 นิ้ว 8 ต้น ใช้เป็นเสาโรงเรือนและขาโต๊ะสำหรับวางระบบการปลูกพืช พลาสติกใส หนา 150 ไมคอน ความยาวแล้วแต่ขนาดของโรงเรือน นำมาทำเป็นหลังคา ส่วนพลาสติกดำ หนา 150 ไมคอน หน้ากว้าง 2 เมตร ใช้เป็นวัสดุรองรับการไหลของน้ำ
ท่อพีอีขนาด 16 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นท่อหลักใช้ต่อน้ำจากปั๊มเข้าสู่ระบบการปลูก ท่อไมโคร เป็นท่อย่อยเพื่อแยกน้ำจากท่อหลักมาสู่รางปลูก ท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว และ 4 นิ้ว เพื่อรองรับน้ำจากรางปลูกให้ไหลลงสู่ถังรับน้ำ ตัวเจาะพีอี และท่อ 4 หุน ใช้เป็นที่ยึดพลาสติกไม่ให้หย่อน และไม่ให้เกิดอาการตกท้องช้าง เป็นแอ่ง เวลาฝนตก แผ่นโฟม หนา 1 นิ้ว คอยพยุงลำต้นพืชแทนดิน ป้องกันไม่ให้พืชล้ม ตัวหนีบผ้า ไว้หนีบพลาสติกดำไม่ให้ลมตีกระพือ ฟองน้ำหนา 1 นิ้ว เป็นวัสดุเพาะกล้า พร้อมถาดวางแก้ว โดยใส่ฟองน้ำไว้ในถาดเพื่อให้มีน้ำขังอยู่ในนั้น เป็นการเพิ่มความชื้น
ถังน้ำขนาด 120 ลิตร จำนวน 2 ถัง เพื่อเป็นวัสดุรองรับสารละลายธาตุอาหารพืชในระบบทั้งหมด และสิ่งจำเป็นอีกอย่าง คือ ปั๊มน้ำ ขนาด 2,500 AP เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำในระบบ อันนี้หาซื้อได้ตามร้านขายปลาสวยงามทั่วไป
การเพาะกล้า ใช้ฟองน้ำหนา 1 นิ้ว ความยาวตามขนาดถาดรองแก้ว กรีดฟองน้ำเป็นรูปตารางหมากรุก ไม่ให้ขาดออกจากกัน ขนาด 1x1 นิ้ว และกรีดตรงกลางตารางหมากรุกเล็กน้อย เพื่อให้ใส่เมล็ดพันธุ์ได้ จากนั้นนำไปแช่น้ำแล้วบิดให้หมาด หยอดเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการปลูกลงในช่อง จากนั้นนำไปไว้ที่มืด 3 วัน เมื่อเมล็ดเริ่มงอก นำออกมาให้โดนแดด พยายามรดน้ำให้มีความชื้นตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ต้นกล้าตาย
เมื่อต้นกล้าอายุ 14-21 วัน หรือมีใบจริงประมาณ 2 ใบ ก็สามารถย้ายปลูกลงในระบบได้ ต้นกล้าที่สมบูรณ์แข็งแรงจะมีรากขาวให้เห็น แยกต้นกล้าพร้อมฟองน้ำใส่ลงในช่องโฟมที่เจาะไว้ ให้รากแช่อยู่ในน้ำตลอดเวลา ถ้าไม่โดนน้ำจะแห้งตาย แล้วให้สารละลายธาตุอาหารพืชลงในน้ำ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนสารละลายในระบบจากการไหลเวียนของน้ำ เพียงแค่นี้ก็มีแปลงผักตามที่ต้องการ
สำหรับการเก็บเกี่ยว ถ้าพืชที่ปลูกเป็นผักบุ้ง เมื่ออายุได้ประมาณ 20-28 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว สำหรับผักอื่น ๆ จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 30-35 วันหลังย้ายปลูกก็สามารถเก็บผลผลิตได้เช่นกัน ปัจจุบันโรงเรียนบ้านเกาะยะระโตดนุ้ย มีผักให้นักเรียนได้บริโภคโดยตลอดตามที่ต้องการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 มิถุนายน 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=166052&NewsType=1&Template=1