'ผักไฮ่' พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ทำรายได้หลายหมื่นบาทต่อไร่
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 51
'ผักไฮ่' พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ทำรายได้หลายหมื่นบาทต่อไร่
"ผักไฮ่” จัดเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่คนเหนือนิยมนำเอายอดมาประกอบอาหาร เช่น ผัดน้ำมันหอย แกงรวมกับยอดฟักทองหรือลวกจิ้มกับน้ำพริก จัดเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มีรสชาติอร่อย ขมเล็กน้อย ผักไฮ่ที่พบในธรรมชาติมีความหลากหลายทางสายพันธุ์มาก ปัจจุบัน คุณเจริญ หน่อแก้ว เกษตรกรหัวก้าวหน้าของ จ.พะเยา ได้จำแนกผักไฮ่ด้วยประสบการณ์ได้ 4 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์พื้นบ้านจำนวน 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ที่มีลักษณะใบกลม ผลเล็กและยอดเล็ก, พันธุ์ที่มีใบหยัก ผลใหญ่และยอดเหลืองและพันธุ์ที่มีใบกลม ไม่ติดผลและยอดเล็ก ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ พันธุ์เกษตร ที่มีลักษณะใบหยัก รูปใบโพธิ์ ยอดใหญ่อวบอ้วนและไม่มีผล ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจได้
ลักษณะรายละเอียดของผักไฮ่พันธุ์เกษตรคือ จะมียอดใหญ่ ใบใหญ่และหนา ไม่ออกดอกและติดผล มีการแตกยอดไวมาก ยอดไม่เหนียว ก้านไม่แข็ง รสชาติดีและไม่ขม เมื่อนำมาปลูกเป็นรายได้เสริมมีการจัดการเรื่องระบบน้ำได้ดีพอสมควรสามารถบังคับให้แตกยอดขายได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จะขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 40 บาท หรือประมาณ 15 ยอดต่อ 5 บาท ในขณะที่ขายยอดในช่วงฤดูฝนจะได้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม คุณเจริญ บอกว่ามีเกษตรกรได้นำมาปลูกในเชิงพาณิชย์สามารถทำรายได้ถึง 20,000-30,000 บาทต่อไร่ ที่สำคัญจัดเป็นพืชพื้นบ้านที่มีโรคและแมลงรบกวนน้อยมาก จะพบปัญหาเรื่องเชื้อราบ้างในช่วงฤดูหนาว
ในการเตรียมดินปลูกผักไฮ่พันธุ์เกษตรเตรียมดินเหมือนกับการปลูกพืชทั่วไป ยกร่องเพื่อไม่ให้น้ำขัง แต่ถ้าจะปลูกเพื่อให้ยอดใหญ่และอวบอ้วนก่อนปลูกควรคลุกเคล้าดินด้วยปุ๋ยชีวภาพหรือปุ๋ยคอกอัตรา 2 ตันต่อไร่ ขุดหลุมขนาดกว้าง,ยาวและลึก = 20x20x20 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกเก่า หลุมละ 500 กรัม และใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 16-16-16 อัตราหลุมละ 1 ช้อนชา พื้นที่ 1 ไร่จะปลูกได้ประมาณ 500 ต้น ระยะระหว่างต้น 1.5 เมตร ระหว่างแถว 2 เมตร ทำค้างให้เป็นแถวยาวเพื่อสะดวกในการเก็บเกี่ยว หลังจากปลูกด้วยกิ่งปักชำไปได้เพียง 1 เดือนจะเริ่มตัดยอดจำหน่ายได้แล้ว คุณเจริญแนะนำให้ปลูกผักไฮ่พันธุ์เกษตรในช่วงเดือนมกราคมและเริ่มตัดยอดขายได้ในเดือนกุมภาพันธ์ (ไม่แนะนำให้ปลูกผักไฮ่ในช่วงฤดูหนาวเพราะจะแตกยอดช้า) หลังจากปลูกไปแล้วจะต้องรดน้ำทุกวันและเสริมด้วยปุ๋ยยูเรีย (สูตร 46-0-0) อัตรา 1 ช้อนชาต่อหลุมจะทำให้ได้ยอดอวบอ้วนขายได้ราคา
มีการคำนวณว่าในพื้นที่ของการปลูก ผักไฮ่เพื่อเก็บยอดขายนั้นในพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จำนวน 500 ต้น จะเก็บเกี่ยวยอดผักไฮ่ได้เฉลี่ย 500 บาทต่อวัน โดยมัดยอดรวมกันจำนวน 15 ยอดขายส่งให้แม่ค้าในราคา 4 บาท ถ้าขายเป็นมัดใหญ่จะขายกิโลกรัมละ 40 บาท เป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่ตลาดยังมีความต้องการอีกมาก
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 มิถุนายน 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=166553&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น