เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 51
นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้คณะอนุกรรมการโครงการส่งเสริมการผลิตพืชพลังงานไบโอดีเซล ได้จัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ ปัญหาปาล์มน้ำมันขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำร้องขอของภาคเอกชนที่เสนอให้มีการจัดการอย่างเป็นระบบทั้งด้านขนส่ง การรวบรวมผลผลิตปาล์ม ซึ่งที่ประชุมมีมติว่า หากปีนี้ไทยไม่สามารถเพิ่มพื้นที่ปลูกปาล์ม คาดอีก 3 ปีข้างหน้า จะเกิดการขาดแคลน ฉะนั้นควรให้เกษตรกรเข้าถึงการปรับเปลี่ยนในแง่ของทุนรวมทั้งพันธุ์ปาล์ม โดยให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมผลิตสายพันธุ์ และกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการปลอมปน
เลขา สปก. กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่ดำเนินการเดิม 3.7 ล้านไร่ พบว่า 30 เปอร์เซ็นต์ สภาพดินไม่เหมาะสม เพื่อสนองนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ที่มุ่งเพิ่มผลผลิตแต่พื้นที่ยังคงเดิม คณะอนุกรรมการฯ เห็นควรให้กรมพัฒนาที่ดินเข้ามาช่วยดูแลการปรับสภาพดิน และกรมปศุสัตว์สนับสนุนสร้างเครือข่ายโคเนื้อเพื่อเพิ่มปุ๋ยคอก
“ทิศทางการลงทุนของเกษตรกรจะเป็นไปในรูปของการพึ่งพากัน ซึ่งจะทำให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้จากการเลี้ยงโค และยังสามารถเอามูลไปเป็นปุ๋ย ซึ่งวิธีดังกล่าวช่วยลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต ขณะเดียวกันภาคโรงงานอุตสาหกรรมก็ต้องหาทิศทางลดต้นทุนด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ทาง สปก.จะเดินหน้าเพิ่มพื้นที่จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 150,000 ไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 500,000 ไร่ ซึ่งแนวทางการปรับแผนทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จประมาณต้นเดือน ก.ค. จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการปาล์มแห่งชาติ ที่มีนายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.เกษตรฯเป็นประธานโครงการฯ สปก.เป็นเลขา และคณะอนุกรรมการประกอบด้วยภาคเกษตรกร ภาคการตลาดและการแปรรูป” นายอนันต์กล่าว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 26 มิถุนายน 2551
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=94823