เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 51
นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายจัดตั้งนิคมการเกษตรพืชอาหารและพืชพลังงาน ในพื้นที่ทั้งหมดของสมาชิกที่อยู่ในเขตน้ำฝน และได้รับเอกสารสิทธิให้ทำกินในที่ดินของนิคมสหกรณ์ พร้อมให้กรมดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่นิคมฯโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ปลูกมันสำปะหลัง เป็นพื้นที่จำนวน 10,000 ไร่ นิคมสหกรณ์ดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 5,000 ไร่ นิคมสหกรณ์ท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 5,000 ไร่ และนิคมสหกรณ์แม่สอด จังหวัดตาก ปลูกข้าวโพดจำนวน 10,000 ไร่
“สำหรับพันธุ์ที่จะนำไปส่งเสริมให้ สมาชิกเพาะปลูกนั้นได้ประสานกับทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) และกรมวิชาการเกษตรเพื่อขอพันธุ์พืชพลังงานทั้ง 4 ชนิด นำไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และขอความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ให้เข้ามาช่วยดูแลถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีทางการเกษตรให้กับสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่”
ส่วนแนวทางการส่งเสริมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่คุ้มค่า อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จะเน้นให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยหมักเป็นหลักและใช้ปุ๋ยเคมีเสริมบ้างในปริมาณที่ เหมาะสม เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวจะมีสหกรณ์ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมทั้ง 4 แห่ง เป็นศูนย์กลางรวบรวมผลผลิตทั้งหมดจากสมาชิก ซึ่งล่าสุดมีบริษัทเอกชนบางแห่งได้ติดต่อผ่านทางสหกรณ์เพื่อขอรับซื้อผลผลิต แล้วบางส่วน ซึ่งคาดว่าประมาณเดือนสิงหาคมจะเริ่มเปิดนิคมการเกษตรฯแห่งแรกที่สหกรณ์ แม่สอด จังหวัดตาก เพื่อเป็นพื้นที่เรียนรู้ ด้านการปลูกพืชอาหารและพลังงานให้เกษตรกร เป็นแบบอย่างในการพัฒนาคุณภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิต ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตต่อไป.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=96453