ญี่ปุ่นมั่นใจคุณภาพข้าวไทย เตรียมเปิดประมูลลอตใหญ่ปลายเดือนนี้
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 51
รัฐบาลญี่ปุ่นและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูปของญี่ปุ่น แสดงความเชื่อมั่นต่อคุณภาพข้าวไทยว่าปราศจากสารตกค้าง และการดัดแปลงพันธุกรรม เตรียมเปิดประมูลลอตใหญ่ประจำปีปลายเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมมั่นใจประเทศไทยจะส่งมอบข้าวได้ตามปริมาณที่ต้องการนางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความสำเร็จหลังนำคณะภาคเอกชนและผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อเจรจาขยายตลาดและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ระหว่างวันที่ 15-20 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมาว่า คณะผู้แทนไทยได้เข้าพบหน่วยงานภาครัฐได้แก่ Food Policy Bureau (สำนักงานนโยบายด้านอาหาร) ภายใต้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของญี่ปุ่น และภาคเอกชนของญี่ปุ่น ได้แก่ สหกรณ์ผู้ผลิตมิโซของญี่ปุ่น สหกรณ์ผู้ค้าส่งและผู้แปรรูป/กระจายข้าว สมาคมผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว บริษัทเอกชนญี่ปุ่นผู้นำเข้าข้าวไทย รวมทั้งหน่วยงาน Overseas Merchandise Inspection ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบคุณภาพข้าวที่ส่งออกมาจากประเทศไทย
ทั้งนี้ทางคณะของไทยได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ข้าวไทย และตอบข้อซักถามหน่วยงานภาครัฐ คณะ นักธุรกิจของญี่ปุ่น ที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพข้าว และนโยบายการส่งออกข้าวของไทย โดยฝ่ายไทยได้ให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยไม่มีนโยบายจำกัดการส่งออกข้าว และมีปริมาณข้าวเพียงพอต่อการส่งออก นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยไม่มีนโยบายที่จะเพาะปลูก/ ผลิตข้าวดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) ดังนั้นจึงขอให้มั่นใจได้ว่าข้าวที่มาจากประเทศไทยนั้น เป็นข้าวปลอด GMOs
ขณะที่ทางฝ่ายญี่ปุ่นแจ้งว่า ภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นมีความต้องการนำเข้าข้าวจากไทยมากขึ้น โดยเฉพาะข้าวเหนียว และขณะนี้เป็นโอกาสของผู้ส่งออกข้าวไทยที่จะส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่นมากขึ้น เนื่องจากแหล่งนำเข้าเดิมจากจีนได้จำกัดการส่งออก ประกอบกับญี่ปุ่นได้ห้ามการนำเข้าข้าวจากเวียดนามตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากตรวจพบมีปัญหาในเรื่องสารตกค้าง ส่วนข้าวที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่เป็นข้าวที่นำเข้ามาเพื่อเก็บไว้ในสต๊อก
อย่างไรก็ตามทางญี่ปุ่นได้ขอให้ผู้ส่งออกข้าวไทย มีความระมัดระวังในเรื่องคุณภาพข้าวให้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะเรื่องสิ่งปลอมปน สำหรับข้าวหอมมะลิไทยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์ฯ กรุงโตเกียว ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า จากการหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรฯของญี่ปุ่น ได้รับคำยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดประมูลข้าวประจำปีงบประมาณ 2008/2009 ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากได้เลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมคือเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา และคาดว่าญี่ปุ่นจะมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายข้าวมากขึ้น หลังการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G-8 ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพโดยประเด็นเรื่องวิกฤติอาหารจะเป็นหนึ่งในประเด็นที่มีการหารือกันของผู้นำในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ที่จะต้องนำเข้าข้าวประมาณปีละ 682,000 ตัน โดยญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญเป็นอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคเอเชีย รองจากจีน และฮ่องกง ซึ่งญี่ปุ่นมีตลาดนำเข้าข้าวที่สำคัญคือสหรัฐอเมริกา ไทย และจีน โดยข้าวที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากไทยส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 75 เป็นข้าวขาว 100% และปลายข้าว ที่เหลือจะเป็นข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ โดยการนำเข้าจะนำเข้าผ่านวิธีการประมูลข้าว ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของญี่ปุ่น
สำหรับการส่งออกข้าวของไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม-22 กรกฎาคม 2551 ไทยได้ส่งออกข้าวไปแล้ว 6,612,767 ตัน มูลค่า 3,890 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 125,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณ 4,529,515 ตัน มูลค่า 1,676 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 58,743 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 45.99 132.14 และ 113.31 ตามลำดับ โดยราคาส่งออกเฉลี่ยได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นตันละ 588 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่ตันละ 370 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.01
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 กรกฎาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=171526&NewsType=1&Template=1
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
