แมคคาเดเมียที่ดอยตุง
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 51
แมคคาเดเมียที่ดอยตุง
วันก่อนมีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษาโครงการพัฒนาดอยตุง กับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ในโครงการสื่อมวลชนสัญจรโครงกา“พอเพียงสู่ประโยชน์สุข” รับฟังหม่อมราชวงศ์ ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และประธานโครงการพัฒนาดอยตุง เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของโครงการว่าโครงการพัฒนาดอยตุงจังหวัดเชียงราย เป็นโครงการที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ทรงเริ่มมาตั้งแต่ปี 2531
เป็นโครงการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน เพื่อแก้ไขความยากจนที่ต้นเหตุของปัญหาประเด็นแนวคิดและวิธีการแก้จนตามตำราหลวง หรือเรียนรู้จากในหลวงของประชาชน ซึ่งสมเด็จย่าทรงเรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการส่วนพระองค์ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทั้งนี้การแก้ไขความจนต้องเริ่มจากการพัฒนาคือการให้โอกาสคนและพัฒนาคน การดำเนินงานต้องเข้าใจเข้าถึงการพัฒนา โดยจุดหมายปลายทางคือทำอย่างไรให้คนช่วยตัวเองให้ได้ นั่นคือเศรษฐกิจพอเพียง
และหนึ่งในการดำเนินงานจากหลาย ๆ โครงการคือการทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้มีการทำป่าเศรษฐกิจ คือแมคคาเดเมีย ซึ่งใช้เวลาถึง 9 ปีจึงได้ผล แมคคาเดเมีย นัท ต้นไม้เศรษฐกิจในโครงการพัฒนาดอยตุงมีเป้าหมายเพื่อสร้างอาชีพทางเลือกที่ยั่งยืนให้กับชาวไทยภูเขา ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยดำรงชีวิตด้วยการปลูกฝิ่นบนดอยตุง ดอยสูงที่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนสามเหลี่ยมทองคำอันลือเลื่องไปทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มปลูกด้วยการดูแลอย่างพิถีพิถัน ต้นแมคคาเดเมียเหล่านี้จึงได้สร้างผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ สร้างเศรษฐกิจ และรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชาวไทยภูเขาในโครงการฯ อย่างต่อเนื่องตลอดมาจวบจนทุกวันนี้ แมคคาเดเมีย นัท เป็นพืชที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากสารอาหารหลากหลายชนิด รวมถึงกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
แมคคาเดเมียเป็นผล nut ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจและมีความต้องการทางตลาดสูง เนื่องจากมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยมีกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นไขมันประเภทไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fatty acidC18:1) และมีความสามารถในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และเป็นแหล่งของวิตามินบี มีการผลิตมากตามแถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลียและรัฐฮาวายในสหรัฐอเมริกา
สำหรับประเทศไทยนั้น วันนี้ได้มีการขยายผลเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดเชียงรายจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจุบันการเพาะปลูกประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถให้ผลผลิตที่นำมาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคได้ แม้ในบางพื้นที่ปลูกยังประสบกับปัญหาเรื่องของการกะเทาะเปลือกเพื่อนำผลมาแปรรูปอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มีการศึกษาวิจัยเพื่อหาค่าที่สามารถนำมาเป็นแนวทางในการเพาะปลูกเพื่อให้ลดและหมดไปของปัญหาดังกล่าว เนื่องจากการกะเทาะเปลือกของแมคคาเดเมียดีหรือไม่ดีนั้นจะเป็นผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตที่ได้รับ ซึ่งรับทราบมาว่ามีแนวโน้มที่ดีต่อคำตอบอยู่ไม่น้อย
และนอกเหนือสิ่งอื่นใดที่ไม่บังควรลืมก็คือการมีและเกิดขึ้นของแมคคาเดเมียในประเทศไทยนั้นก็คือการเกิดขึ้นและการดำเนินโครงการที่ประสบความสำเร็จของโครงการพัฒนาดอยตุงจังหวัดเชียงราย ที่มีเป้าหมายเพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎรในพื้นที่อย่างยั่งยืนนั่นเอง
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 21 สิงหาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=174105&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น