ปลูกลำไยพันธุ์จัมโบ้จำหน่ายเป็นไม้ผลแปลกและหายาก

ปลูกลำไยพันธุ์จัมโบ้จำหน่ายเป็นไม้ผลแปลกและหายาก

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 51

พฤติกรรมในการบริโภคผลไม้ของคนไทย นอกจากในเรื่องของความอร่อยของรสชาติแล้ว ขนาดของผลที่มีความใหญ่กว่าปกติมีส่วนช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจเลือกซื้อมากขึ้น อย่างกรณีของสายพันธุ์ลำไยเช่นกัน ที่ผ่านมาคนไทยจะรู้จักเพียงพันธุ์อีดอ, เบี้ยวเขียว, สีชมพู ฯลฯ มีการพัฒนาพันธุ์ พวงทองซึ่งให้ผลผลิตดกและรสชาติดี ในเวลาต่อมาได้มีการนำพันธุ์ลำไยจากประเทศเวียดนาม มาทดลองและส่งเสริมการปลูกในบ้านเราโดยใช้ชื่อ พันธุ์ปิงปอง ผลปรากฏว่าเป็นสายพันธุ์ลำไยที่มีขนาดของผลใหญ่ใกล้เคียงกับลูกปิงปองจริง แต่เมล็ดใหญ่, เนื้อบาง, รสชาติไม่อร่อยและมีกลิ่นคาว ผลสุดท้ายเป็นสายพันธุ์ลำไยที่ไม่ดีจริง เกษตรกรจึงเลิกปลูกกันไป ลำไยพันธุ์การค้าที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุดในขณะนี้คือ พันธุ์อีดอ เนื่องจากให้ผลผลิตสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันทางกองคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร ได้จัดรวบรวมสายพันธุ์ลำไยที่ปลูกอยู่ในประเทศไทยมีจำนวน 26 สายพันธุ์

ปัจจุบันมีเรื่องที่น่ายินดีทางกรมวิชาการเกษตรได้ค้นพบลำไยที่มีขนาดผลใหญ่ใกล้เคียงกับลูกปิงปอง ซึ่งเป็น ต้นลำไยที่มี คุณสุทัศน์ อินต๊ะ เป็นเจ้าของต้น ปัจจุบันต้นแม่พันธุ์มีอายุหลายสิบปีและต้นยังมีชีวิตอยู่เป็นต้นลำไยที่ได้จากการเพาะเมล็ดและกลายพันธุ์มาดีเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะต่อการบริโภคสด ลักษณะเด่นคือ ผลมีขนาดใหญ่มากมีเส้นผ่าศูนย์กลางของผลเฉลี่ย 3-4 เซนติเมตร มีขนาดใหญ่กว่าลำไยเกรดเอ ที่ส่งขายยังตลาดต่างประเทศถึง 2 เท่า และได้มีการตั้งชื่อพันธุ์ลำไยว่า “จัมโบ้” ในฤดูกาลผลิตลำไยในปีนี้ (เดือนสิงหาคม 2551) ผู้เขียนได้ผลผลิตลำไยพันธุ์ “จัมโบ้” มาทด สอบในการบริโภคจริง จะต้องยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ลำไยที่มีขนาดของผลใหญ่จริง ลักษณะ ของผลกลมแป้น ผิวเปลือกมีสีน้ำตาลปนเหลือง เปลือกหนาประมาณ 1.3 มิลลิเมตร เมื่อได้ผ่าดูลักษณะภายในพบว่าเป็นลำไยที่ มีเนื้อหนามากและแห้ง รสชาติหวานกรอบคล้ายกับพันธุ์อีดอไม่มีกลิ่นคาว มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ ที่สำคัญพบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่ง ไปกว่านั้นในแต่ละช่อมีการติดผลดกมาก สรุปได้ว่าเป็นลำไยพันธุ์ดีมากอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหมาะที่จะส่งเสริมและขยายพื้นที่ปลูกได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์

ในวงการผู้ปลูกลำไยด้วยกันต่างก็ทราบดีว่าปัจจุบัน ลำไยไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดสามารถปลูกให้ออกดอกและติดผลได้ในพื้นที่ทั่วประเทศ เนื่องจากได้มีการนำสารโพแทสเซียมคลอเรตหรือโซเดียมคลอเรตมาใช้ในการบังคับให้ต้นลำไยออกดอกและติดผลในช่วงเวลาใดก็ได้ เพียงแต่พื้นที่ที่ปลูกจะต้องมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 กันยายน 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=176739&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551

ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว

กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา

ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี

เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง

ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ

"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น