กรมวิชาการฯฟุ้ง ผลงานผลักดัน เกษตรทฤษฎีใหม่ ช่วยชีวิตเกษตรกร
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 51
สำหรับโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ดังกล่าว ได้ดำเนินการบนเนื้อที่ 27 ไร่ 3 งาน ของมูลนิธิชัยพัฒนา แบ่งสัดส่วนการใช้ที่ดินเป็นร้อยละ 30:30:30:10 ของที่ดินทั้งหมด โดย 30 เปอร์เซ็นต์แรกเป็นเนื้อที่การทำนา 30 เปอร์เซ็นต์ที่สองใช้ขุดบ่อในการกักเก็บน้ำ 30 เปอร์เซ็นต์ที่ 3 ใช้ปลูกพืชสวน ไม้ผล และ 10 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายใช้เป็นพื้นที่พักอาศัยและเลี้ยงสัตว์
การดำเนินโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ดังกล่าว ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ขณะนี้ผ่านมากว่า 4 ปี ผลผลิตทางการเกษตรสามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดแล้ว โดยได้รับผลตอบแทนอย่างน่าพอใจ สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง ทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปี และยังมีรายได้จากการจำหน่ายไม้ผล เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา และพืชสวนครัวอีกด้วย
นอกจากนี้เกษตรกรที่นำโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเอง ยังทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น มีความมั่นคง มีรายได้ที่แน่นอนและพอเพียง ซึ่งกรมวิชาการเกษตรมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสร้างความเข้าใจ ในการทำการเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น โดยในปี 2550 ได้ทำการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจจำนวน 120 คน และในปี 2551 ได้เปิดอบรมไปแล้วกว่า 120 คน
ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 5 จังหวัดชัยนาทกล่าวด้วยว่า เกษตรกรที่ผ่านการอบรมเกษตรทฤษฎีใหม่ ส่วนใหญ่จะนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองตามศักยภาพที่สามารถทำได้ ซึ่งให้ผลตอบแทนอย่างน่าพอใจ เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี ลดรายจ่าย ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง สภาพแวดล้อมดีขึ้น และปัญหาหนี้สิ้นก็ลดลงไปด้วย เกษตรกรรู้จักคำว่า พอเพียง ตามแนวพระราชดำริ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 22 กันยายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=124304
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
