สองประสานมุ่งปฏิบัติงาน พัฒนาข้าวไทยก้าวสู่สากล
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 51
ปัจจุบันการส่งเสริมการผลิต การพัฒนาชาวนา ตลอดจนบริหารจัดการการผลิต การตลาดภายใน ตลาดต่างประเทศมีหน่วยงานทั้งภาคราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ซึ่งการดำเนินการยังไม่สอดคล้องรับกันทั้งระบบ ส่วนใหญ่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว และในบางครั้งยังเป็นการซ้ำเติมให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานสองหน่วยงานคือกรมการข้าวและกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งกรมการข้าวมีหน้าที่เป็นองค์กรนำในการวิจัยพัฒนาและส่งเสริมข้าวเพื่อความมั่นคงของประเทศ และสร้างความมั่งคั่งให้แก่ชาวนารวมทั้งเป็นผู้นำด้านการตลาดข้าวของโลก จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญ ในการปรับปรุงพัฒนาการปลูกข้าวให้มีผลผลิตต่อพื้นที่และคุณภาพสูงขึ้น เพราะข้าวเป็นพืชอาหารหลักของคนไทยทั้งประเทศ และกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีหน้าที่เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรในการผลิต การแปรรูป การเพิ่มมูลค่าในสินค้าเกษตร การกำหนดมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมการเกษตร การควบคุมคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสู่เกษตรกร ซึ่งทั้งสองหน่วยงานต่างก็มุ่งที่จะสร้างอาชีพ สร้างรายได้และความมั่นคงในการผลิตและประกอบอาชีพการเกษตรแก่เกษตรกรซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศเหมือนกัน
ดังนั้นการพัฒนาการผลิตข้าวและการพัฒนาชาวนาไทยจึงเป็นความมุ่งหวัง เป็นภารกิจ ที่ต้องร่วมมือกันในการปฏิบัติงานด้านการพัฒนา การส่งเสริมการผลิตข้าวและการพัฒนาชาวนาของประเทศและเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐแบบบูรณาการ ตลอดจนสร้างความเข้าใจให้กับบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือในการปฎิบัติงานด้านข้าวและการพัฒนาชาวนา ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งนี้เพื่อให้มีผลทำให้หน่วยงานทั้งสองสามารถให้บริการ รองรับและดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาลและความต้องการของชาวนาในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงจัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการปฏิบัติงานระหว่างกรมการข้าว กับ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐแบบบูรณาการ เกิดการประสานความร่วมมือการปฏิบัติงาน ด้านข้าวของหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างมีระบบและสอดคล้องสัมพันธ์กัน ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมถึงนโยบายของรัฐได้ และเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
นายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามนี้จะทำให้ทั้ง 2 หน่วยงานเกิดการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ทั้งด้านการพิจารณาแผนส่งเสริมและพัฒนาข้าวและชาวนาแห่งชาติ การดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมรวมถึงสนับสนุนการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านข้าว การบริหารจัดการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ ให้คำแนะนำปรึกษา ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิต และรับรองระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่ศูนย์ส่งเสริมและผลิตภัณฑ์ข้าวชุมชน การรับรองแหล่งผลิตข้าวตามระบบจัดการคุณภาพ (GAP ข้าว) โดยให้ความรู้ คำปรึกษา และการตรวจประเมินตามระบบการจัดการคุณภาพแก่นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรทุกระดับ การเตือนภัยการระบาดศัตรูข้าวและภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกร รวมทั้งมีระบบข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงและใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 คณะ คือ "คณะกรรมการว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกรมการข้าว กับ กรมส่งเสริมการเกษตร" โดยมีอธิบดีของทั้ง 2 หน่วยงานผลัดกันเป็นประธานและดำรงตำแหน่งวาระละ 2 ปี โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นประธานในวาระแรกซึ่งจะดำเนินการตั้งหลังจากที่มี การลงนามในบันทึกข้อตกลงแล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 21 มกราคม 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=91695
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
