เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 51
จากข้อมูลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ระบุว่าสถานภาพการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีสหกรณ์มากที่สุด จำนวน 3,165 แห่ง มีความเสี่ยงทางการเฝ้าระวังทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างวิตก จำนวน 2,552 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 80.63 ของจำนวนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือร้อยละ 25.41 ของจำนวนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้เข้มแข็งเพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้
นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงเรื่อง ปัญหาทุจริตของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้มอบหมายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการดำเนินการของสหกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะขณะนี้กรมฯ ได้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินภาคสหกรณ์ CFSAWS:ss (Cooperative Financial Surveillance and Warning System:Set Standard) เป็นระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สามารถช่วยให้การตรวจสอบบัญชีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องกันปัญหาการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นกับสหกรณ์ รวมถึงเป็นระบบที่เปิดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปร่วมในการตรวจสอบสถานะทางการเงินของสหกรณ์ได้ หากพบสิ่งผิดปกติก็จะดำเนินการตรวจสอบและสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ การจัดทำระบบ CFSAWS:ss ขึ้นมา ก็เพื่อให้กลุ่มสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรรับรู้สถานการณ์ของตนเอง สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขาดทุนหรือวิกฤติทางการเงินจนต้องปิดกิจการลง
นายเกรียงศักดิ์ บุณยะสุต โฆษกกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า CFSAWS:ss เป็นเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน ได้แก่ 1.อัตราค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 2.อัตราลูกหนี้ที่ชำระได้ตามกำหนด และอัตราส่วนทุนสำรองต่อสินทรัพย์ทั้งหมด 3.จัดระดับการวิเคราะห์และเฝ้าระวังทางการเงิน 4 ระดับ ได้แก่ ปกติ มากขึ้น พิเศษ และพิเศษเร่งด่วน และจากการวิเคราะห์สถาน การณ์ทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในภาพรวม ปี 2550 ที่ผ่านมาพบว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจำนวน 10,045 แห่ง มีสมาชิกกว่า 10.11 ล้านครัวเรือน ดำเนินงานภายใต้เงินทุนจำนวนกว่า 883,000 ล้านบาท ผลการตรวจวิเคราะห์ทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ด้วยเครื่องมือ CFSAWS:ss พบว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเพียงร้อยละ 25.22 มีผลการจัดระดับวิเคราะห์และเฝ้าระวัง อยู่ในระดับปกติ นอกจากนั้นคิดเป็นร้อยละ 74.78 มีผลการจัดระดับวิเคราะห์และเฝ้าระวังอยู่ในระดับมากขึ้น-พิเศษ-พิเศษเร่งด่วน
เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและแก้ไขได้ตรงจุดยิ่งขึ้น เช่น ลดค่าใช้จ่ายให้สัมพันธ์กับรายได้ หรือถ้าเป็นค่าใช้จ่ายที่ลดไม่ได้ต้องสร้างรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ตลอดจนติดตามเร่งรัดการเรียกเก็บหนี้จากสมาชิกให้ได้ตามกำหนดเวลา หรือมีแผนการปรับปรุงหนี้ให้เป็นระบบ และเพิ่มทุนสำรองให้มากพอ เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางการเงิน ถือว่านวัตกรรมใหม่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชิ้นนี้ทำขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จะได้มีเครื่องมือเตือนภัยทางการเงิน นำไปสู่การบริหารจัดการระบบการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 22 ตุลาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=180287&NewsType=1&Template=1