เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 51
นายวิชา ธิติประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เผยว่า กรมฯได้รับรายงานจากกงสุลฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ข้าวไทยที่ส่งเข้าไปขายมีการปลอมปน ทำให้ตลาดขาดความเชื่อถือ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิ ของไทยไปจีนนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ความต้องการกลับเพิ่มสูงขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้นำเข้าของจีน นำเข้าข้าวจากที่อื่นหรือข้าวของจีนเอง แล้วเอามาปนกับข้าวหอมไทย เนื่องจากคนจีนนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิของไทย
ปัจจุบันได้ขอความร่วมมือกับผู้ส่งออกข้าวของไทย ให้เน้นในเรื่องคุณภาพของข้าว โดยเฉพาะการบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ก่อนส่งออก ต้องเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่สะอาด ไม่เคยบรรจุสารเคมีมาก่อนและต้องมีการรองพื้นตู้คอนเทนเนอร์เสมอ นอกจากนี้ การรมยาจะต้องถูกวิธี ซึ่งไม่ควรรมยาในตู้คอนเทนเนอร์และปิดตู้ทันทีเมื่อเสร็จ เนื่องจากการขนส่งด้วยเรือใช้เวลาเดินทางเพียง 4-5 วัน จะทำให้ยังมีกลิ่นตกค้างเมื่อถึงที่หมาย สำหรับการส่งข้าวจากไทยไปประเทศจีนนั้น ปัจจุบันส่งขนาดกระสอบละ 50 กิโลกรัม และ 100 กิโลกรัม ซึ่งผู้นำเข้าจะนำบรรจุใหม่เป็นขนาดถุง 5 กิโลกรัม จึงอาจเป็นได้กับการปนเปื้อนในช่วงนั้น.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 23 ตุลาคม 2551
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=108614