หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
ข้อคิดสำหรับผู้ที่จะปลูกทับทิมเชิงพาณิชย์
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 51
ข้อคิดสำหรับผู้ที่จะปลูกทับทิมเชิงพาณิชย์
"ทับทิม” จัดเป็นผลไม้แปลกและหายากอีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรไทยมีความพยายามที่จะปลูกในเชิงพาณิชย์ให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงมากและจัดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมากทางด้านอาหารและยา จากงานวิจัยพบว่าน้ำทับทิมมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุดชนิดหนึ่ง แต่การปลูกทับทิมในบ้านเราพบปัญหาสำคัญหลัก ๆ อยู่ 2 ประการ คือ การคัดเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมมาปลูก และ สภาพพื้นที่ที่จะปลูกให้ประสบผลสำเร็จ จึงเป็นที่สังเกตว่าปัจจุบันมีการส่งเสริมและเผยแพร่ทับทิมอยู่หลายสายพันธุ์ ในแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีข้อเด่นและข้อด้อยแตกต่างกันไป
ปัจจุบันเกษตรกรที่ปลูกทับทิมในเชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของบ้านเราคือ ดร.ไพรัตน์ ไชยนอก อยู่บ้านเลขที่ 130 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก มีพื้นที่ปลูกทับทิมในพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ โดยปลูกพันธุ์ศรีปัญญามากที่สุด ดร.ไพรัตน์ได้บอกถึงการเริ่มต้นการปลูกทับทิมจะต้องปลูกให้ตามตะวัน (ถ้าปลูกขวางตะวันจะติดผลเพียงด้านเดียว) ต้นทับทิมได้รับแสงแดดดีเท่าไร ต้นจะยิ่งโตเร็วและมีความสมบูรณ์ ระยะการปลูกที่เหมาะสมใช้ระยะระหว่างต้น 4 เมตร และระยะระหว่างแถว 7 เมตร สำหรับปุ๋ยที่เน้นมากที่สุดคือปุ๋ยคอกโดยใช้ “ขี้หมู” (ดร.ไพรัตน์จะเลี้ยงหมู ล้างเล้าหมูในแต่ละครั้งจะนำขี้หมูไปราดต้นทับทิมต้นละ 2 กระป๋อง) เป็นที่สังเกตว่าในการใส่ปุ๋ยคอกของสวนเทพพิทักษ์จะเน้นใส่ในช่วงฤดูฝน ส่วนปุ๋ยทางใบจะฉีดพ่นเพียง 20% เท่านั้น การตัดแต่งกิ่งต้นทับทิมจะตัดแต่งโคนเพียงอย่างเดียวโดยใช้มีดถากออกเลย โดยเฉพาะทับทิมพันธุ์ศรีปัญญาไม่ต้องตัดแต่งอะไรมาก ต้นที่ติดผลดกต้นจะโน้มลงมาหมดเลย ในขณะที่ต้นที่สูงชะลูดจะไม่ออกลูก หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24
ขณะนี้ความก้าวหน้าของการแปรรูปทับทิมของ ดร.ไพรัตน์ จะมีการแปรรูปส่งขายตลาดอเมริกาด้วยระบบฟีซดายน์เป็นผงบรรจุแคปซูลหรือนำไปชงกินแบบชาด้วยเทคโนโลยีในการไล่น้ำออกทั้งหมด ปัจจุบันที่สวนแห่งนี้แปรรูปน้ำทับทิมศรีปัญญาส่งขายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก ได้ซื้อเครื่องบีบคั้นน้ำทับทิมในราคาเครื่องละ 60,000 บาท การบีบด้วยเครื่องจะบีบผ่านถุงแรงดันที่มีความทนเหนียวต่อการบีบอัดได้ดี นำผลทับทิมมาผ่า 4 ทั้งเปลือก ล้างให้สะอาดและนำมาบีบทั้งเปลือก ที่บีบทั้งเปลือกเนื่องจากต้องการความฝาดจากเปลือกซึ่งชาวต่างชาติจะชอบมาก ทับทิมสดน้ำหนัก 100 กิโลกรัม คั้นเป็นน้ำทับทิมได้ประมาณ 45 ลิตร (ถ้าผลทับทิมแก่และผลใหญ่น้ำจะมาก) บรรจุเป็นแกลลอน 5 ลิตร ราคาขายส่งแกลลอนละ 2,500 บาท.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=182118&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น