ด้วยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 'ปางอุ๋ง' เป็นแหล่งปลูกอะโวกาโดพันธุ์ดี
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 51
ด้วยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 'ปางอุ๋ง' เป็นแหล่งปลูกอะโวกาโดพันธุ์ดี
ได้เดินทางไปแม่ฮ่องสอน...แต่แวะไปศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ณ ที่แห่งนี้ ก่อนนี้อาจเคยได้ยินว่ามีการปลูกฝิ่น แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ทางราชการได้ส่งเสริมให้ปลูกพืชอื่น ๆแทนฝิ่น นั่นคือ องุ่นไร้เมล็ด อะโวกาโด...เป็นต้น ฉะนั้น ภาพเมื่อ 30 ปีก่อนกับภาพปัจจุบันจึงแตกต่างกันอย่าง สิ้นเชิง
สำหรับความเป็นมานั้น...ย้อนหลังไปเมื่อกว่า 30 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปจังหวัดเชียงใหม่ พระองค์เสด็จขึ้นไปเยี่ยมเยียนราษฎรตามยอดดอยต่าง ๆ ทรงพบเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น และยากจนของชาวเขา ที่ดำรงชีพด้วยการปลูกฝิ่นอย่างกว้างขวาง บุกรุกแผ้วถาง และเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย ป่าต้นน้ำลำธารถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือชาวเขาเพื่อมนุษยธรรม ขจัดพื้นที่ปลูกฝิ่น และช่วยเหลือชาวพื้นราบด้วยการฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร และสภาพแวดล้อม
ฉะนั้น ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ (ปางอุ๋ง) จึงได้จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522 ประชากรเป็นชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง พวกเขาได้รับการส่งเสริมให้ปลูกพืชให้เพียงพอแก่การบริโภค นอกจากได้รับการส่งเสริมให้ปลูกพืชรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่นแล้วยังได้รับการส่งเสริมให้มีการทำการเกษตรอย่างถาวรในพื้นที่โดยเน้นไม้ผลเมืองหนาว เช่น องุ่น อะโวกาโด พลับ กาแฟ ถั่วแดงหลวง ถั่วอะซูกิ กะหล่ำปลี แครอท มันฝรั่ง โดยทางราชการสนับสนุนให้ลดการใช้สารเคมีและคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ได้มีการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ สำหรับบริโภคภายในครัวเรือนและเป็นรายได้เสริม
คุณภาพชีวิตของประชากรของที่นี่จึงมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง before กับ after ปัจจุบันพวกเขามีความสุขในชีวิต พวกเขามีผลผลิตที่มีคุณภาพ มีตลาดรองรับ มีอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ มีชีวิตที่สงบสุข
ปางอุ๋งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรด้วย หากไปก็จะได้พบกับแปลงสาธิตพืชผักผลไม้ของศูนย์ เช่น กาแฟอาราบิก้า ไผ่หวาน พลับ บ๊วย อะโวกาโด นอกจากนี้มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติคือ ทุ่งบัวตองบาน น้ำตกปางเกี๊ยะ ถ้ำผามะโฮง พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง เขามีบ้านพักรับรองและอาหารไว้บริการด้วยแล
มีพืชชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ หลายคนคงรู้จักแต่ยังไม่สนิทชิดเชื้อ วันนี้จะพามาแนะนำให้รู้จักให้มากขึ้น บางคนอาจแปลกใจผลไม้ชนิดนี้ที่เคยเห็นที่ซูเปอร์มาร์เกตตามศูนย์การค้า หรือบางคราเห็นอยู่ตามตลาดนัด ผลไม้ที่ดูขี้เหร่ ๆ เช่นนี้หรือที่ชื่อ “อะโวกาโด”
อะโวกาโด เป็นไม้ผลพื้นเมืองในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาแถบร้อน ที่รู้จักและนิยมบริโภคกันมานาน มูลนิธิโครงการหลวงได้นำอะโวกาโดมาส่งเสริมให้เกษตรกรชาวเขาปลูกเป็นอาชีพ จนกระทั่งเป็นไม้ผลเศรษฐกิจชนิดหนึ่งบนพื้นที่สูง พันธุ์ที่มูลนิธิโครงการหลวงส่งเสริมได้แก่ พันธุ์ปีเตอร์สัน (Peterson) รูเฮิล (Ruehle) บัคคาเนียร์ (Buccaneer) เฟอร์ออเท (Fuerte) บูธ 7 (Booth-7) บูธ 8 (Booth-8) ฮอลล์ (Hall) และ แฮสส์ (Hass)
อะโวกาโดถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารสุขภาพชนิดหนึ่ง เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย
1. เนื้อผลประกอบด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ประมาณ 8-20% แล้วแต่พันธุ์ โดยกรดไขมันในอะโวกาโด ร้อยละ 70 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ชนิด monounsaturater fatty acid ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยช่วยลดปริมาณ LDL-cholesterol ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลเสียต่อร่างกายและเพิ่มปริมาณ HDL-cholesterol ในเลือดซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลดีต่อร่างกาย มีประโยชน์ในการป้องกันโรคหัวใจ
2. มีวิตามินสูง ประกอบด้วยวิตามิน อี วิตามิน เอ วิตามินบี และ วิตามินซี โดยเฉพาะวิตามินอี ซึ่งเป็นสาร antioxidant ที่มีคุณค่าในการปกป้องเซลล์ร่างกายจากมลพิษทางอากาศ น้ำและอาหาร ป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และโรคหัวใจ ในผู้ใหญ่ควรบริโภควิตามินอีอย่างน้อย 10 mg ต่อวันจึงใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญเพื่อการสกัดน้ำมันในอุตสาหกรรมทำเครื่องสำอางประทินผิวต่าง ๆ
3. ให้พลังงานสูง แต่มีน้ำตาลต่ำ ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจึงสามารถรับประทานได้
4. มีโปรตีนสูง และเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย
5. อุดมด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแมงกานีส
6. มีเยื่อใยสูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
ต่อไปเจอะเจออะโวกาโดก็แวะเข้าไปทักทายบ้าง...แม้ภายนอกจะไม่งามแต่ภายในงามอย่างมีคุณค่า หากสนใจในทุกเรื่องที่เขียนมาสอบถามได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ (ปางอุ๋ง) ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง หมู่ที่ 1 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 0-5338-1326, 08-1950-9327.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 8 ธันวาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184590&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น